สำนักงานประธานาธิบดีของปาเลสไตน์กล่าวว่ากรุงเยรูซาเล็ม(อัลกุดซฺ) “ไม่ได้มีไว้ขาย” หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ขู่ว่าจะตัดเงินกว่า 300 ล้านเหรียญที่สหรัฐฯ ต้องจ่ายให้ตามข้อตกลงก่อนหน้านี้กับปาเลสไตน์ เพื่อบีบให้เขาต้องเจรจากับอิสราเอล
“เยรูซาเล็มเป็นเมืองหลวงตลอดกาลของรัฐปาเลสไตน์ และไม่ใช่มีไว้สำหรับขายไม่ว่าจะด้วย ทองหรือเงินนับพันล้าน” โฆษกของมะห์มูด อับบาส Nabil Abu Rudeina กล่าวกับ AFP ซึ่งมะห์มูด อับบาส ประธานาธิบดีปาเลสไตน์กล่าวก่อนหน้านี้ว่าสหรัฐอเมริกาไม่สามารถมีบทบาทใด ๆ ในกระบวนการสันติภาพได้อีก หลังประกาศรับรองเยรูซาเล็มเป็นเมืองหลวงอิสราเอลเมื่อวันที่ 6 ธันวาคมที่ผ่านมา
Abu Rudeina กล่าวว่า “เราไม่ได้ต่อต้านการเจรจา แต่จะต้องอิงตามกฎหมายระหว่างประเทศ และมติที่ได้รับการยอมรับว่ารัฐปาเลสไตน์มีเยรูซาเล็มตะวันออกเป็นเมืองหลวง”
ในวันอังคารที่ผ่านมาทรัมป์ได้กล่าวถึงเงินที่สหรัฐอเมริกาจ่ายให้กับปาเลสไตน์ว่า “เราจ่ายเงินให้ชาวปาเลสไตน์นับร้อยล้านดอลลาร์ต่อปีแต่กลับไม่ได้รับความเคารพ หรือนับถือใด ๆ”
“ปาเลสไตน์ไม่เต็มใจที่จะพูดถึงความสงบสุข ทำไมเราต้องจ่ายเงินเหล่านี้ให้กับพวกเขา?”
ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าทรัมป์จะตัดงบประมาณทั้งหมด 319 ล้านเหรียญในปี 2018 ตามตัวเลขของรัฐบาลสหรัฐฯ ต้องจ่ายให้กับรัฐบาลปาเลสไตน์ หรือไม่
สหรัฐอเมริกาได้ให้การสนับสนุนปาเลสไตน์เป็นเวลานานโดยมีการสนับสนุนด้านงบประมาณ และการช่วยเหลือด้านความปลอดภัยที่จำเป็นมากรวมถึงการเพิ่มเติมความช่วยเหลืออีก 304 ล้านเหรียญสหรัฐสำหรับโครงการของสหประชาชาติในเวสต์แบงก์ และฉนวนกาซ่า
การจ่ายเงินจำนวนดังกล่าวของสหรัฐอเมริกาให้กับชาวปาเลสไตน์นักวิเคราะห์หลายราย รวมทั้งอิสราเอล มองว่ามีความจำเป็นในการรักษาเสถียรภาพของปาเลสไตน์
ที่มา alarabiya