หวั่นเรือบรรทุกน้ำมันอิหร่านที่ชนกับเรือขนเมล็ดพันธุ์ฮ่องกงจนเกิดไฟลุกท่วมตั้งแต่คืนวันเสาร์ (6 มกราคม)0 อาจระเบิดและจมลงก้นทะเล ขณะที่หน่วยกู้ภัยเริ่มหมดหวังในการจะพบผู้รอดชีวิต โดยล่าสุดพบศพลูกเรือเพียง 1 คนในเรือ จากยอดสูญหายทั้งหมด 32 คน ผู้เชี่ยวชาญหลายคนยังแสดงความกังวลว่า อุบัติเหตุครั้งนี้อาจทำให้เกิดหายนะใหญ่ต่อสิ่งแวดล้อม
กระทรวงคมนาคมจีนแถลงเมื่อวันจันทร์ (8) ว่าไฟยังคงโหมไหม้ทั่วเรือบรรทุกน้ำมันซานจี ของอิหร่านที่ติดธงปามานา อย่างรุนแรง และส่งควันดำคละคลุ้งทั่วน่านน้ำบริเวณนั้น ขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยพยายามค้นหาลูกเรืออิหร่าน 30 คนและบังกลาเทศ 2 คนที่สูญหายไป แต่ไม่สามารถทำได้เนื่องจากควันพิษรุนแรง
แถลงการณ์ยังเตือนว่า มีความเสี่ยงที่เรือซานจีที่บรรทุกน้ำมันดิบไลท์ครูด 136,000 ตัน อาจระเบิดและจมลง
ลู่ คัง โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน แถลงเมื่อบ่ายวันจันทร์ (8) ว่าเจ้าหน้าที่กู้ภัยพบร่างผู้เสียชีวิต 1 ราย และได้ส่งไปตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์ที่เซี่ยงไฮ้แล้ว
เขาบอกอีกว่า สภาพปัจจุบันไม่เอื้ออำนวยต่อการค้นหาและกู้ภัย และเจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบเพื่อหาวิธีป้องกันหายนะที่อาจเกิดขึ้นตามมา
อุบัติเหตุครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อคืนวันเสาร์ในทะเลจีนตะวันออก ห่างจากทางตะวันออกของเซี่ยงไฮ้ 160 ไมล์ทะเล เมื่อเรือซานจีที่ดำเนินการโดยกลอรี ชิปปิ้งของอิหร่านที่กำลังมุ่งหน้าสู่เกาหลีใต้ ชนกับเรือสินค้าติดธงฮ่องกงที่ชื่อว่า ซีเอฟ คริสตัล ซึ่งบรรทุกเมล็ดพันธุ์ 64,000 ตัน และได้รับความเสียหายไม่มากขณะที่ลูกเรือทั้ง 21 คนปลอดภัยดี
จีนได้ส่งเรือ ซีเอฟ คริสตัล ไปยังเมืองลู่หัวซาน ทางใต้ของเซี่ยงไฮ้ เพื่อเริ่มการสอบสวนหาสาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้แล้ว
กระทรวงคมนาคมจีนระบุว่า มีเรือของรัฐบาล 10 ลำ และเรือประมงอีกจำนวนมาก กำลังช่วยกันกู้ภัยและเก็บกู้คราบน้ำมันที่รั่วไหลจากเรือซานจี โดยมีหน่วยยามฝั่งเกาหลีใต้ส่งเรือและเฮลิคอปเตอร์อย่างละลำไปช่วย เช่นเดียวกับกองทัพเรือสหรัฐฯ ที่ส่งเครื่องบินจากฐานทัพอากาศโอกินาวาในญี่ปุ่น บินค้นหาผู้รอดชีวิตในอาณาบริเวณ 12,350 ตารางกิโลเมตร
ขณะที่ทางการจีนเร่งควบคุมน้ำมันที่รั่วไหลลงทะเล ผู้เชี่ยวชาญหลายคนแสดงความกังวลว่า อุบัติเหตุครั้งนี้อาจทำให้เกิดหายนะใหญ่ต่อสิ่งแวดล้อม
กลุ่มกรีนพีซออกแถลงการณ์ระบุว่า สภาพแวดล้อมอาจได้รับความเสียหายรุนแรงจากน้ำมันดิบราว 1 ล้านบาร์เรลบนเรือซานจี ซึ่งหากน้ำมันดิบเหล่านั้นไหลลงทะเลทั้งหมดจะถือเป็นเหตุการณ์น้ำมันรั่วครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายทศวรรษ
ทั้งนี้ จากข้อมูลบนเว็บไซต์ของ “อินเตอร์เนชันแนล แทงเกอร์ โอว์นเนอร์ส พอลลูชัน เฟเดอเรชัน” เหตุการณ์น้ำมันรั่วไหลเลวร้ายที่สุดอันดับ 6 นับจากทศวรรษ 1960 เกิดขึ้นในปี 1988 เมื่อน้ำมัน 132,000 ตันรั่วไหลจากเรือโอดิสซีห่างจากชายฝั่งโนวาสโกลเทียของแคนาดา 700 ไมล์ทะเล ซึ่งปริมาณน้ำมันในครั้งนั้นใกล้เคียงกับเหตุการณ์ล่าสุดนี้
เว่ย เซียงหวา ผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อมของมหาวิทยาลัยซิงหวาในปักกิ่งชี้ว่า มีความเป็นไปได้ที่อุบัติเหตุครั้งนี้จะทำลายสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลในบริเวณกว้าง และถึงแม้ในสถานการณ์ที่ดีที่สุดก็อาจต้องใช้เวลานานมากกว่าที่ทุกอย่างจะกลับเป็นปกติ สิ่งเดียวที่ทำได้ในขณะนี้คือ พยายามมากที่สุดเพื่อไม่ให้น้ำมันรั่วไหลไปยังบริเวณอื่น
ด้านกระทรวงปิโตรเลียมอิหร่านเผยว่า เรือซานจีเป็นของเนชันแนล อิราเนียน แทงเกอร์ คอมปานี (เอ็นไอทีซี) และอยู่ระหว่างการนำน้ำมันไปส่งให้ฮันวา โททัลในเกาหลีใต้
อุบัติเหตุครั้งนี้เป็นอุบัติเหตุทางทะเลครั้งร้ายแรงล่าสุดที่เกิดขึ้นในเอเชียตะวันออกในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ล่าสุดคือเดือนตุลาคมปีที่แล้วที่ลูกเรือ 13 คนของเรือประมงจีนเสียชีวิต หลังจากที่เรือชนกับเรือบรรทุกน้ำมันฮ่องกงนอกชายฝั่งด้านตะวันตกของญี่ปุ่น
ขณะที่ในเดือนสิงหาคมปีที่แล้วที่เรือยูเอสเอส จอห์น เอส. แมกเคน ของสหรัฐฯ ชนกับเรือบรรทุกน้ำมันสิงคโปร์ ทำให้ทหารเรือเสียชีวิต 10 นาย