มูลนิธิเพื่อศูนย์กลางอิสลามแห่งประเทศไทย รำลึกคุณูปการ “ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ” โดยมีอดีตนายกรัฐมนตรี นักการเมือง นักวิชาการ ผู้ทรงคุณวุฒิ และพี่น้องจำนวนมากร่วมงาน ลูกชายย้ำจะสารต่อฝันของพ่อ
เมื่อวันอังคาร (9 มกราคม) มูลนิธิเพื่อศูนย์กลางอิสลามแห่งประเทศไทย กลุ่มรวมใจเพื่อนสามารถ และองค์กรเครือข่าย จัดงานรำลึกคุณูปการ ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ อดีตเลขาธิการอาเซียน ซึ่งเสียชีวิตเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2560 ด้วยภาวะหัวใจล้มเหลว
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวถึงคุณูประการของ ดร.สุรินทร์ว่า ที่สำคัญที่สุด ก็คือการสร้างแรงบันดาลใจ จากเด็กนักเรียนปอเนาะต่างจังหวัด จนจบการศึกษามหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในโลก ถือเป็นแรงบันดาลใจในการไขว่คว้าหาโอกาส ซึ่งหากเด็กทุกคนมีการไขว่คว้าหาโอกาสก็มีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จและสร้างโอกาสให้กับตัวเองต่อไปได้ เราไม่รู้เลยว่าจะมีเพชรหรือมีช้างเผือกอยู่ตรงไหน แต่ถ้าเราหยิบยื่นโอกาสให้เพชรหรือช้างเผือกก็จะเกิดขึ้นได้ไม่ยาก เป็นแรงบันดาลใจให้กับคนทำงานด้านการศึกษา และในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมานักวิชาการเข้าสู่การเมืองปรับตัวไม่ค่อยได้ แต่ ดร.สุรินทร์เป็นตัวอย่างของนักวิชาการที่ปรับตัวเป็นนักการเมืองที่ดีได้ และรักษาหลักวิชาได้
“ผมกล้าพูดว่า นายสุรินทร์ เป็นรมว.ต่างประเทศ ที่ไม่เป็นรองใคร สามารถผสมผสานความเชี่ยวชาญ ความรู้เกี่ยวกับการต่างประเทศเข้ากับทักษะการใช้นโยบายทางการเมืองประกาศนโยบายด้านการต่างประเทศที่เป็นประโยชน์ออกมาได้อย่างมหาศาล จากนั้นเมื่อถึงจุดอิ่มตัวในระดับหนึ่งและพร้อมก้าวไปสู่เวทีสากล นายสุรินทร์ก็ได้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการอาเซียน หากจะถามว่ามีใครรู้จักเลขาธิการอาเซียนในภูมิภาคนี้หรือไม่ก็คิดว่าจะมีคนรู้จัก นายสุรินทร์ เพียงแค่คนเดียวก็ได้ เรื่องนี้เป็นสิ่งที่พิสูจน์ว่าไม่ว่าเราจะอยู่ในสถานะตำแหน่งใดก็สามารถทำสิ่งที่เป็นอยู่นั้นให้มีคุณค่าขึ้นมาได้” นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อด้วยความตั้งใจล่าสุดที่น่าเสียดายก่อนท่านจะเสียชีวิตไป ก็คือความต้องการลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
นายอภิสิทธิ์กล่าวอีกว่า ช่วงเวลา 1 เดือนสุดท้ายก่อนที่ ดร.สุรินทร์ จะจากไป ตนได้มีโอกาสอยู่กับ ดร.สุรินทร์ 1 วัน ที่ฟิลิปปินส์ ซึ่งได้ขึ้นกล่าวปาฐกถาในหัวข้อเดียวกัน จำได้ว่าในวันนั้นไม่ว่า ดร.สุรินทร์ จะพูดในฐานะผู้อภิปรายหรือผู้ดำเนินรายการ ตนคิดอยู่ในใจว่าคนที่จะขึ้นไปพูดบนเวทีระดับประเทศและระดับโลกที่สามารถสะกดให้ผู้ชมมีความสนใจ มีแง่คิด แง่มุมการนำเสนอที่สร้างความประทับใจให้กับผู้ฟังตลอดเวลานั้นหาได้ยาก
ด้านอ.วันมูหะมัดนอร์ มะทา กล่าวว่า เสียดายแทนนายอภิสิทธิ์ เพราะโดยส่วนตัวอยากเห็น ดร.สุรินทร์ เข้ามาทำงานการเมืองอีก โดยเฉพาะการทำงานในตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ดร.สุรินทร์ จากไปท่ามกลางความดีงามตั้งแต่เริ่มต้นของชีวิตจนกระทั่งวันสุดท้าย เป็นผู้ที่ทำงานเพื่อสังคมเป็นคนที่มีความดีงามที่ยิ่งใหญ่แต่ต้นเสียดายว่าหลายงานที่อยากให้นายสุรินทร์ได้มีโอกาสเข้าไปถึง และได้ทำนั้นคงไม่มีโอกาสนั้นแล้ว จึงอยากให้พวกเราทุกคนสานต่อเจตนารมณ์ของนายสุรินทร์ ต่อไปให้ยาวนาน การที่เรายกย่องรําลึกถึงความดีของคนที่จากไปแล้วถือเป็นคุณูปการที่ยังอยู่ แต่การพูดถึงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ เมื่อพูดถึงแล้วก็ต้องนำสิ่งดีๆ ที่ท่านทำไว้เป็นตัวอย่างด้วย
นางสาวบุษฎี สันติพิทักษ์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึง ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และอดีตเลขาธิการอาเซียน ยืนยันว่า จะสืบสานปณิธานของ ดร.สุรินทร์ ในการส่งเสริมสัมพันธไมตรี สืบสานการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ การพัฒนานักการทูตสู่ความเป็นเลิศและแบ่งปันโอกาสการศึกษาแก่เยาวชนไทยต่อไป
ด้านบุตรชายกล่าวในฐานะผู้แทนของครอบครัวว่า “เราตั้งใจสานต่อความฝันของคุณพ่อ คุณแม่ เราจะดำเนินการตามอุดมการณ์ และความตั้งใจของคุณพ่อต่อไป แต่มันอาจจะเป็นในวิถีทางของเราเอง อยากให้ทุกคนเป็นกำลังใจ ช่วยเหลือพวกเรา พลักดันพวกเขาในการทำงานเพื่อสังคมต่อไป ผ่านไปแล้ว 40 วันที่พ่อไม่อยู่ แต่เราต้องอยู่อีก 40 ปีที่จะพิสูจน์ตัวเองว่าคุณพ่อสอนพวกเรามาดี พวกเราสัญญาว่าจะดำเนินการไปพร้อมกับคุณแม่ และน้องๆ ของคุณพ่อ ขอเวลาให้สั่งสมประสบการณ์อีกนิด หากท่านยังอยู่แล้วมองกลับมาท่านจะภูมิใจในตัวของเราเช่นกัน”
