กองทุนเด็กแห่งสหประชาชาติ (UNICEF) เปิดเผยว่า เฉพาะพื้นที่ฆุตเฎาะห์ตะวันออก เพียงพื้นที่เดียวมีเด็กอย่างน้อย 30 คนถูกสังหารในช่วง 2 สัปดาห์แรกของปี 2018 โดกองกำลังบาชาร์ อัล-อัสซาด
“เป็นเรื่องตกตะลึงว่าในช่วง 14 วันแรกของปีนี้มีเด็กกว่า 30 คนถูกสังหารในความรุนแรงที่ ฆุตเฏาะห์ตะวันออก ซึ่งประมาณ 400,000 คน อยู่กับภาวะอดอยากรุนแรงจากการปิดล้อมยาวนานตั้งแต่ 2013” ผู้แทนองค์การยูนิเซฟประจำซีเรีย Fran Equiza, กล่าวในการแถลงวันจันทร์
Equiza กล่าวว่าสถานบริการทางการแพทย์สองแห่งถูกโจมตีในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาในเมืองฆุตเฏาะห์ตะวันออก และศูนย์บริการสุขภาพส่วนใหญ่ต้องปิดตัวลง “ในบางพื้นที่คลินิกฉุกเฉินถือเป็นวิธีเดียวที่ครอบครัวชาวซีเรียจะได้รับการบริการทางการแพทย์”
เด็กบางคนอยู่ต้องอยู่กับภาวะเจ็บป่วยรุนแรงต้องการการรักษาทางการแพทย์โดยเร่งด่วน แต่ยังคงต้องรอการอนุญาติจากบาชาร์ อัล-อัสซาดเพื่อที่จะออกจากพื้นที่ที่ถูกปิดล้อมได้ ขณะที่ตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมาระบอบการปกครองบาชาร์ อัล-อัสซาด และรัสเซียได้เปิดฉากโจมตีอย่างหนักต่อพื้นที่ฆุตเฏาะห์ตะวันออกอีกครั้ง ทำให้วิกฤตในพื้นที่รุนแรงขึ้น
หัวหน้าหน่วยงานสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติได้ประณามการเข่นฆ่าพลเรือนในเมืองฆุตเฏาะห์ตะวันออก ท่ามกลางการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในการโจมตีจากอากาศของรัสเซีย และการโจมตีภาคพื้นดินโดยกองกำลังระบอบการปกครองของบาชาร์ อัล-อัสซาด และพันธมิตรชีอะห์ของพวกเขา
“รายงานที่เกิดขึ้นในฆุตเฏาะห์ตะวันออก พบว่าพลเรือนที่ได้รับบาดเจ็บจากการถูกโจมตีอาจไม่ได้รับการปฏิบัติตามหลักมนุษยธรรมระหว่างประเทศ ทำให้เกิดความกังวลว่าอาชญากรรมสงครามอาจกำลังเกิดขึ้นที่นี่” Zeid Ra’ad Al Hussein ข้าหลวงใหญ่สหประชาชาติกล่าว
พลเรือนจำนวน 400,000 คนที่ติดอยู่ในพื้นที่ปิดล้อมฆุตเฏาะห์ตะวันออก อยู่ในสภาพโศกนาฏกรรมอันเป็นผลมาจากการโจมตีที่รุนแรง และการทิ้งระเบิดอย่างไม่หยุดยั้งโดยกองกำลังของอัสซาดซึ่งต่อเนื่องเป็นเวลาหลายปี
ในช่วงต้นเดือนมกราคมองค์การแอมเนสตี้อินเตอร์เนชั่นแนลกล่าวว่าระบอบการปกครองบาชาร์ อัล-อัสซาดได้ใช้อาวุธต้องห้ามที่ผลิตโดยโซเวียต ในการโจมตีประชาชนในฆุตเฏาะห์ตะวันออก ที่เข้าข่ายเป็นอาชญากรรมสงคราม
