ชาวอเมริกันเรือนแสนร่วมชุมนุมในนาม “วีเมนส์ มาร์ช” ปีที่ 2 ในหลายเมืองทั่วอเมริกา เพื่อประท้วงต่อต้านนโยบายของทรัมป์ที่ส่งผลร้ายต่อผู้หญิงเมื่อวันเสาร์ที่ (20 มกราคม) ผ่านมา ซึ่งเป็นวันครบรอบปีแรกในการรับตำแหน่ง ด้านแกนนำเดโมแครตร่วมเวทีชี้ประธานาธิบดีสอบตก ขณะที่เจ้าตัวทวิตตอบโต้โดยอ้างความสำเร็จในการทำให้อัตราว่างงานในหมู่ผู้หญิงลดต่ำสุดในรอบ 18 ปี
การชุมนุมของกลุ่ม “วีเมนส์ มาร์ช” ที่มีการประสานงานกันและจัดขึ้นในวอชิงตัน นิวยอร์ก ลอสแองเจลีส ชิคาโก และอีกราว 250 เมืองทั่วอเมริกา มีการโจมตีประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จากการออกนโยบายที่ส่งผลร้ายต่อสตรี รวมทั้งเรียกร้องให้ผู้มีสิทธิ์ออกเสียงออกไปแสดงพลังในการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาเดือนพฤศจิกายนที่จะถึง
นอกจากการชุมนุมวันเสาร์แล้ว หลายเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งลาสเวกัส และเมืองต่างๆ ในยุโรป เช่น เบอร์ลิน ยังนัดชุมนุมกันในวันอาทิตย์ (21)
ทรัมป์ตอบโต้การชุมนุมใหญ่ครั้งนี้ซึ่งถือเป็นปีที่สองที่จัดขึ้น โดยอวดอ้างว่า ตลอดปีที่ผ่านมาเขาได้สร้างความสำเร็จทางเศรษฐกิจและความมั่งคั่งอย่างไม่เคยมีมาก่อน และทำให้อัตราว่างงานในหมู่ผู้หญิงลดลงต่ำสุดในรอบ 18 ปี
ทั้งนี้ จากข้อมูลของกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ อัตราว่างงานในกลุ่มแรงงานหญิงเดือนธันวาคมที่ผ่านมาอยู่ที่ 3.7% ต่ำกว่าอัตราว่างงานโดยรวมของประเทศที่อยู่ที่ 4.1% กระนั้น ผู้ชุมนุมจำนวนมากบอกว่า ไม่เชื่อว่า คณะบริหารชุดนี้จะทำสิ่งที่ดีเพื่อผู้หญิง
ผู้ชุมนุมหลายคนสวมหมวกถักสีชมพูที่เรียกกันว่า “พุซซี่แฮต” (pussy hat) ที่ริเริ่มขึ้นในการชุมนุมเมื่อปีที่แล้วเพื่อท้าทายคำพูดของทรัมป์เกี่ยวกับอวัยวะเพศสตรี และพุตซี่แฮตกลายเป็นสัญลักษณ์ของการให้อำนาจสตรีและการต่อต้านประธานาธิบดีใหม่นับจากเข้ารับตำแหน่งวันแรกๆ
การชุมนุมในวันเสาร์ยังเกิดขึ้นหลังจากปีแห่งการเรียกร้องสิทธิของผู้หญิง ด้วยการก่อตั้งแคมเปญ #MeToo และ #TimesUp ในโซเชียลมีเดีย เพื่อต่อต้านการล่วงละเมิดทางเพศ
ผู้ขึ้นเวทีปราศรัยเมื่อวันเสาร์หลายคนตอกย้ำประเด็นการล่วงละเมิดทางเพศ และเรียกร้องให้ชาวอเมริกันตอบโต้วัฒนธรรมที่ยอมรับการข่มเหงผู้หญิง
อิริก การ์เซ็ตติ นายกเทศมนตรีลอสแองเจลีส ประเมินว่ามีผู้เข้าร่วมชุมนุมราว 600,000 คน ซึ่งถือเป็นจุดชุมนุมที่มีผู้เข้าร่วมมากที่สุด โดยในบรรดาผู้ที่ผลัดเปลี่ยนขึ้นเวทีปราศรัยยังมี นาตาลี พอร์ตแมน และอีวา ลองโกเรีย สองนักแสดงหญิงชื่อดังของฮอลลีวูดด้วย
ที่วอชิงตัน แนนซี เปโลซี ผู้นำเสียงข้างน้อยของเดโมแครตในสภาผู้แทนราษฎร ขึ้นเวทีโจมตีว่า ปีแรกในตำแหน่งประธานาธิบดีของทรัมป์ถือว่า สอบตกโดยสิ้นเชิง
การชุมนุมเมื่อปีที่แล้วนั้นมีผู้เข้าร่วมทั่วประเทศราว 5 ล้านคน ซึ่งถือเป็นหนึ่งในการชุมนุมใหญ่ที่สุดที่เคยเกิดขึ้นในอเมริกา
ที่ชิคาโก เจ้าหน้าที่ประเมินว่า ผู้ชุมนุมในแกรนด์ปาร์คมีจำนวน 200,000-300,000 คน ขณะที่แกนนำอ้างว่า จำนวนผู้ชุมนุมในปีนี้มากกว่าปีที่แล้วเล็กน้อย
นับจากการหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2016 ทรัมป์มีคะแนนนิยมในหมู่ผู้หญิงลดฮวบ ผลสำรวจของ “พิว รีเสิร์ช เซ็นเตอร์” ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาพบว่า ผู้ชาย 46% อนุมัติผลงานทรัมป์ ส่วนผู้หญิงที่คิดแบบเดียวกันมีแค่ 1 ใน 3
ผู้จัดการชุมนุมหวังว่า จะแปลงพลังต่อต้านทรัมป์เป็นการดำเนินการทางการเมืองภายใต้ธีม “พลังแห่งการเลือกตั้ง” เพื่อกระตุ้นให้ผู้มีสิทธิ์ออกเสียงใหม่ 1 ล้านคนไปลงทะเบียน และเพิ่มการมีส่วนร่วมของผู้หญิงในการเลือกตั้งกลางเทอมปลายปีนี้
นักเคลื่อนไหวระบุว่า นโยบายของทรัมป์ที่ต่อต้านการคุมกำเนิดและการปกป้องการจ่ายค่าแรงอย่างเท่าเทียม กระตุ้นให้ผู้หญิงจำนวนมากออกมาเคลื่อนไหวเป็นครั้งแรก ตัวอย่างเช่นในการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาที่รัฐเวอร์จิเนีย สมาชิกเดโมแครตที่ได้รับเลือกตั้งใหม่เป็นผู้หญิงถึง 11 คน จากทั้งหมด 15 คน