45 โรงเรียนในปาเลสไตน์ถูกทำลายโดยอิสราเอล

สำนักงานสหประชาชาติเพื่อประสานงานด้านมนุษยธรรม (OCHA) กล่าวเมื่อวันอาทิตย์(4 กุมภาพันธ์)ว่าอย่างน้อย 45 โรงเรียนในปาเลสไตน์กำลังเผชิญกับภัยคุกคามจากการถูกทำลายโดยเจ้าหน้าที่ของอิสราเอล

ในแถลงการณ์ของ OCHA สำหรับดินแดนปาเลสไตน์ที่ถูกยึดครอง Roberto Valent ชี้แจงว่าโรงเรียนปาเลสไตน์ในกรุงเยรูซาเล็มตะวันออกถูกทำลายโดยทหารอิสราเอล และเสริมว่า “การรื้อถอนถูกดำเนินการโดยอ้างว่าเป็นการก่อสร้างโดยไม่ได้รับอนุญาตจากอิสราเอล ซึ่งเกือบจะเป็นไปไม่ได้ที่อิสราเอลจะอนุญาตให้ชาวปาเลสไตน์ก่อสร้างใดๆ ในดินแดนที่ถูกยึดครอง”

“ขณะที่ในเขต Abu Nuwar เด็กหลายร้อยคนจากโรงเรียนอย่างน้อย 45 แห่งในเวสต์แบงก์ (37 แห่งในพื้นที่โซน C และ 8 แห่งในกรุงเยรูซาเล็มตะวันออก) พร้อมกับคำสั่งรื้อถอนที่รอดำเนินการ ทำให้โรงเรียนอยู่ในความไร้เสถียรภาพที่อาจถูกทำลายได้ทุกเวลา นับเป็นภัยคุกคามต่อการเข้าถึงการศึกษาของพวกเด็กชาวปาเลสไตน์” Valent กล่าวในแถลงการณ์

ตามแถลงการณ์ระบุว่าทหารอิสราเอลได้ทำลายห้องเรียนสองชั้นที่ให้บริการแก่เด็ก ๆ จำนวน 26 คนในชุมชนชาวเบดูอิน และผู้ลี้ภัยในเขต Abu ​​Nuwar ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณพื้นที่โซน C ชานเมืองกรุงเยรูซาเล็ม

การศึกษาของเด็กที่โรงเรียนได้รับการสนับสนุนจากสหภาพยุโรป ถูกอิสราเอลเข้ารื้ออาคารโดยอ้างว่าก่อสร้างโดยไม่ได้รับอนุญาต

“Abu Nuwar เป็นหนึ่งในชุมชนที่อ่อนแอที่สุดที่ต้องการความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในเวสต์แบงก์ พวกเขายังเป็นตัวแทนของชุมชนชาวปาเลสไตน์หลายแห่งซึ่งได้รับผลกระทบจากนโยบาย และแนวทางปฏิบัติของอิสราเอลรวมถึงการทำลายล้าง และการจำกัดการเข้าถึงบริการด้านการศึกษาขั้นพื้นฐาน เช่นการศึกษา ได้สร้างสภาพแวดล้อมที่บีบบังคับจากละเมิดสิทธิมนุษยชนต่อผู้อยู่อาศัยในท้องถิ่น และก่อให้เกิดความเสี่ยง โดยมีโรงเรียน 6 แห่งถูกเข้าหน้าที่อิสราเอลอ้างกฎหมายเข้ายึดครองไปตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2016 ”

ข้อตกลงออสโลระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ระหว่างปี 1995 ได้แบ่งดินแดนในเวสต์แบงก์ออกเป็นพื้นที่โซน ‘A’, ‘B’ และ ‘C’ โดยสำหรับพื้นที่โซน A และ B จะบริหารจัดการ และดูแลด้านความมั่นคงโดยรัฐบาลปาเลสไตน์ และพื้นที่โซน C จะดูแลโดยอิสราเอล

ชาวปาเลสไตน์เบดูอิน 700 คนในเขต Abu Nuwar ที่อยู่ในพื้นที่โซน C ยืนกรานปฏิเสธที่จะออกจากหมู่บ้านของพวกเขาแม้จะต้องเผชิญหน้ากับภัยคุกคามอย่างต่อเนื่อง และความกดดันจากอิสราเอลก็ตาม

ที่มา World Bulletin

ความคิดเห็น

comments