ตายอย่างน้อย 94 รายในรอบ 24 ชั่วโมง ผลงานโหดกองกำลังระบอบบาชาร์ อัล-อัสซาด พร้อมพรรคพวก ถล่มพื้นที่อาศัยของประชาชนฝ่ายต่อต้านซีเรียในพื้นดินแดนฆุตเฎาะห์ตะวันออกที่ถูกปิดล้อม ห่างเมืองหลวงกรุงดามัสกัส เพียง 10 กิโลเมตร เมื่อวันจันทร์ที่ (19 กุมภาพันธ์) ผ่านมา ตามรายงานของกลุ่มสังเกตุการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนซีเรีย
ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ รวมถึงการยิงถล่มด้วยจรวดแบบพื้นสู่พื้น และปืนใหญ่ นอกจากจะทำให้มีผู้เสียชีวิตเกือบ 100 รายแล้วยังทำให้พลเรือนอีก 325 คน บาดเจ็บอีกด้วย
ด้านรัฐบาลบาชาร์ อัล-อัสซาด อ้างว่าการโจมตีพุ่งเป้าไปที่กลุ่มติดอาวุธเท่านั้น
สำนักข่าว SANA สื่อทางการของบาชาร์ อัล-อัสซาด อ้างว่า ฝ่ายต่อต้านซีเรียยิงปืนครกออกมาจากพื้นที่ปิดล้อมเข้ามาตกในกรุงดามัสกัส ทำให้เด็กเสียชีวิต 1 รายและมีผู้บาดเจ็บอีก 8 คน จึงเปิดปฎิบัติการตอบโต้รุนแรงเกิดขึ้น
องค์การสหประชาชาติ (UN) ระบุว่า พลเรือนอีกเกือบ 400,000 คนอาศัยอยู่ในดินแดนฆุตเฎาะห์ตะวันออกที่ถูกปิดล้อมจากกองกำลังบาชาร์ อัล-อัสซาด และพรรคพวกชีอะห์มาตั้งแต่ปี 2013 ส่งผลให้เกิดวิกฤตด้านมนุษยธรรมร้ายแรงในพื้นที่ซึ่งทำให้เด็ก และผู้ใหญ่หลายรายอดตาย
ปาโนส มุมซิส ผู้ประสานงานด้านวิกฤตการณ์ซีเรียของสหประชาชาติระบุว่า การโจมตีที่รุนแรงขึ้นทำให้มีพลเรือนเสียชีวิตอย่างน้อย 40 คน และบาดเจ็บกว่า 150 คน เฉพาะในวันจันทร์ (19) วันเดียว
“สถานการณ์ด้านมนุษยธรรมสำหรับพลเรือนในกูตาตะวันออกย่ำแย่ลงเรื่อยๆ อย่างไร้การควบคุม… ชาวบ้านส่วนใหญ่ไม่มีทางเลือกนอกจากพาลูกหลานลงไปหลบในห้องใต้ดินหรือบังเกอร์” ผู้ประสานงานสหประชาชาติ ระบุ
ศูนย์สังเกตการณ์สิทธิมนุษยชนซีเรียรายงานว่า สถานการณ์เริ่มทวีความรุนแรงขึ้นตั้งแต่วันอาทิตย์ (18) และในบรรดาผู้เสียชีวิตยังรวมถึงเด็กๆ 18 คน
วาเอล โอลวาน โฆษกของกลุ่ม อัล-เราะห์มาน ในฆุตเฎาะห์ตะวันออก ระบุว่ามีการโจมตีทางอากาศอย่างหนักหน่วงตลอดทั้งวัน “พวกเขาไม่ได้ใช้กำลังรุกรานภาคพื้นดิน แต่มีการยิงถล่มอย่างหนัก”
สำนักงานเพื่อการประสานงานด้านมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติ (OCHA) ระบุว่า ภาวะทุพโภชนาการกำลังกลายเป็นปัญหาใหญ่สำหรับชาวบ้านในฆุตเฎาะห์ตะวันออก เพราะแทบไม่มีความช่วยเหลือด้านอาหารถูกส่งไปถึงมือประชาชน
แม้พื้นที่แห่งนี้จะรวมอยู่ในแผนหยุดยิงที่รัสเซียร่วมมือกับตุรกีและอิหร่านเป็นคนกลางไกล่เกลี่ย แต่ทว่าชาวบ้านและอาสาสมัครบรรเทาทุกข์ระบุว่า ไม่มีการทำตามข้อตกลงใดๆ ในพื้นที่แห่งนี้ อีกทั้งอาหาร เชื้อเพลิง และยารักษาโรคก็เหลือน้อยลงทุกที
เซียร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย ระบุเมื่อวันอาทิตย์ (19) ว่า รัสเซีย และพันธมิตร “อาจนำประสบการณ์ในการปลดปล่อยเมืองอะเลปโป (Aleppo) เข้ามาใช้กับฆุตเฎาะห์ตะวันออก” พร้อมกล่าวอ้างกลุ่มนักรบ “อัน-นุสรา” เป็นตัวการบ่อนทำลายความสงบในพื้นที่นี้
อย่างไรก็ตาม ประชาชนในพื้นที่ที่ถูกปิดล้อมยืนยันว่ารัสเซีย และบาชาร์ อัล-อัสซาดละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยอ้างอันนุสเราะห์เป็นเครื่องบังหน้า
