UN จี้รัสเซียต้องหยุดยิงในซีเรียตามมติ เปิดทางความช่วยเหลือเข้าพื้นที่

องค์การสหประชาชาชาติยืนยัน รัสเซียต้องยึดมติ UN หยุดยิง 30 วันทั่วประเทศซีเรีย ย้ำคำสั่งหยุดยิงของปูตินแค่วันละ 5 ชั่วโมง ขัดมติ และไร้ผลในทางปฎิบัติ หลังการโจมตียังคงหนักหน่วงทำให้เจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์เข้าพื้นที่ไม่ได้

สำนักข่าว DW ของเยอรมันรายงานเมื่อวันพฤหัสบดี(1 มีนาคม)ว่า องค์การสหประชาชาติออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ “รัสเซีย” ต้องทำตามมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติที่ออกมาเมื่อสัปดาห์ก่อน ในการประกาศให้ทั่วประเทศซีเรียเป็นเขตหยุดยิง 30 วัน

ทว่าแม้รัสเซียจะเป็น 1 ใน 5 ของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ แต่ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน กลับไม่ให้ความเคารพต่อมติของสหประชาชาติ โดยออกคำสั่งให้หยุดยิงเพียงวันละ 5 ชั่วโมงต่อวัน โดยเปิดทางให้อีก 19 ชั่วโมงที่เหลืิอยังคงมีปฎิบัติการโจมตีทางอากาศต่อเป้าหมายพลเรือนอย่างหนักต่อไป โดยเฉพาะในฆุตเฎาะห์ตะวันออกที่ถูกปิดล้อมมากว่า 5 ปี และอยู่ห่างออกไปจากกรุงดามัสกัสเพียง 10 กิโลเมตรเท่านั้น

ทั้งนี้พบว่าทูตพิเศษสหประชาชาติ 2 คนได้กล่าวถึงปัญหานี้ โดยชี้ว่า การกระทำของรัสเซียทำให้เป็นการยากที่จะส่งความช่วยเหลือเข้าไปในพื้นที่ได้ ซึ่งทางองค์การสหประชาชาติต้องการส่งอาหาร ยารักษาโรค และการอพยพผู้ป่วยออกมาจากพื้นที่ความขัดแย้งอย่างเร่งด่วน หลังสถานพยาบาลเกือบทั้งหมดในพื้นที่ตกเป็นเป้าโจมตีจนแทบไม่สามารถให้บริการได้ตามปกติ

Jan Egeland หัวหน้าปฎิบัติการบรรเทาทุกข์แห่งองค์การสหประชาชาติประจำซีเรีย แถลงต่อนักการทูตจาก 23 ชาติที่เข้าร่วมการประชุมประจำสัปดาห์ในเมืองเจนีวาว่า

ขบวนรถบรรเทาทุกข์ที่ถูกาส่งมายังภูมิภาคในปี 2018 ได้มาถึงในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ และมีสิ่งของบรรเทาทุกข์สำหรับ 7,200 คนเท่านั้น แต่ไม่มีใครสามารถประสบความสำเร็จในการใช้ช่องทางบรรเทาทุกข์ใหม่ได้ ซึ่งในเวลานี้มีประชาชนซีเรียที่ติดอยู่ในกูตาตะวันออกราว 400,000 คน

ช่องทางบรรเทาทุกข์แบบคู่ขนาน “ 2 ช่องทาง” เป็นสิ่งที่จำเป็นต้องให้เกิดขึ้นในเวลานี้ เพื่อให้ขบวนรถบรรเทาทุกข์หลายเที่ยวสามารถวิ่งเข้าสู่ใจกลางพื้นที่ได้ในแต่ละสัปดาห์ และต้องมีการอพยพผู้ป่วยเร่งด่วน 1,000 คนออกนอกพื้นที่

สหประชาชาติมีรถบรรทุก 43 คันรออยู่ที่นั่นเพื่อเข้าสู่พื้นที่ และโกดังที่มีสิ่งของบรรเทาทุกข์อยู่ด้านในจนล้นเพื่อรอขนใส่รถบรรทุกเข้าพื้นที่ได้ในทันทีเมื่อทางเราได้รับใบอนุญาตให้เขาพื้นที่

ขณะที่ Staffan de Mistura ทูตพิเศษสหประชาชาติประจำซีเรียอีกรายได้ให้สัมภาษณ์กับนักข่าวถึงปัญหาสำคัญของการบรรเทาทุกข์ในซีเรียว่า องค์การสหประชาชาติจะยังคงต้องการให้มีการบังคับใช้มติการหยุดยิง 30 วันที่ออกมาจากคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติต่อไป

เราจะยังยืนกรานกดดันอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าเราต้องประสบความยากลำบากในการกดดัน เรามุ่งมั่นให้สิ่งนี้เกิดขึ้นเพราะไม่ต้องการให้เป็นเหมือนสิ่งที่เกิดขึ้นในอเลปโป

ด้านกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯออกมาประณาม “เส้นทางบรรเทาทุกข์” โดยชี้ว่า เป็นเสมือนสิ่งที่ตั้งขึ้นแบบไร้ความหมาย เพราะผู้คนต่างหวาดกลัวที่จะใช้เส้นทางนี้เพื่ออพยพออกมาจากพื้นที่ เพราะเกรงภัยอาจถูกนำตัวเข้าไปร่วมกับกองทัพซีเรีย การหลบหนี และความตาย

อย่างไรก็ตาม ในพื้นที่ปฎิบัติการทางทหารอื่นๆ โดยเฉพาะที่เมืองอัฟริน ขบวนรถบรรเทาทุกข์ที่มีสิ่งของสำหรับผู้พลัดถิ่น 50,000 คน ตามการเปิดเผยของคณะกรรมการกาชาดสากล แม้ตุรกีจะยังคงสู้กับกองกำลังเคิร์ดในพื้นที่อย่างหนักก็ตาม

โดยในรายงานของเอเอฟพีวันศุกร์(2) กองทัพตุรกีออกแถลงการณ์ถึงยอดเสียชีวิตในการสู้รบว่า กองทัพตุรกีสูญสียอย่างหนัก พบมีทหารเสียชีวิต 8 ราย และบาดเจ็บอีก 13 ราย

โดกันนิวส์ รายงานว่า การปะทะอย่างหนักเริ่มเปิดฉากขึ้นในช่วงบ่ายระหว่างหน่วยรบพิเศษตุรกีและกองกำลังติดอาวุธเคิร์ด YPG ซึ่งใช้วิธีซุ่มโจมตีในพื้นที่อัฟรินผ่านทางช่องอุโมงค์ลับใต้ดิน

และจากรายงานพบว่า เฮลิคอปเตอร์ทางการแพทย์ของกองทัพตุรกีสำหรับการอพยพทหารบาดเจ็บต้องถอยล่นหลังถูกโจมตี แต่พื้นที่อยู่ในการโจมตีสามารถอพยพออกได้

โดยเมื่อวันจันทร์(26 กุมพาพันธ์) ตุรกีได้ส่งกองกำลังตำรวจและหน่วยรบพิเศษ (gendarmerie) ร่วม 600 นายเข้าพื้นที่อัฟริน เพื่อเปิดแนวรบสมรภูมิการรบในเมืองในการหลบเลี่ยงการสูญเสียของพลเรือน

ความคิดเห็น

comments