ขบวนรถบรรทุก 46 คนที่บรรทุกความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมได้เข้าสู่ฆุตเฎาะห์ตะวันออก โดยผ่านทางด่านที่ควบคุมโดยระบอบบาชาร์ อัล-อัสซาด นับเป็นครั้งแรกในรอบเกือบหนึ่งเดือนที่ความช่วยเหลือเข้าสู่พื้นที่ได้ แต่อุปกรณ์ทางการแพทย์ที่สำคัญในการช่วยชีวิตชาวซีเรียที่ได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีกลับถูกยึด ไม่ให้นำเข้าพื้นที่ ตามรายงานของ อัลญะซีเราะห์
Robert Mardini หัวฝ่ายปฎิบัติการในตะวันออกกลางของคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศกล่าวว่าในทวีตเมื่อวันจันทร์ที่(5 มีนาคม)ผ่านมาว่าขบวนรถที่บรรทุกสิ่งของจำเป็นสำหรับช่วยเหลือพลเรือนได้ราวหมื่นคนได้ถูกส่งเข้าไปในดินแดนฆุตเฎาะห์ตะวันออก
สิ่งของที่นำเข้าพื้นที่รวมทั้งอุปกรณ์การผ่าตัด และยา รวมทั้งอาหาร และแป้ง 5,500 ถุง ที่เพียงพอสำหรับ 27,500 คน
Ali al-Za’tari เจ้าหน้าที่อาวุโสขององค์การสหประชาชาติในขบวนรถบรรเทาทุกข์กล่าวกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่าจะใช้เวลาหลายชั่วโมงในการแจกจ่ายความช่วยเหลือในเขตปกครองของฝ่ายต่อต้านซีเรีย และอาจต้องลากยาวจนค่ำก่อนที่จะออกจากพื้นที่ได้
องค์การอนามัยโลกกล่าวอย่างเป็นทางการว่าระบอบการปกครองบาชาร์ อัล-อัสซาด ได้สั่งยึด 70% ของเวชภัณฑ์จากขบวนรถบรรเทาทุกข์ ที่ต้องการนำเข้าพื้นที่เพื่อช่วยบรรเทาอาการบาดเจ็บจากการโจมตี ที่รวมทั้งชุดอุปกรณ์อินซูลิน และสารอาหารที่สำคัญอื่น ๆ
คณะกรรมการกาชาดสากล ICRC ยืนยันว่าอุปกรณ์ทางการแพทย์บางอย่างถูกสั่งห้ามนำเข้าพื้นที่
พลเรือนกว่า 725 รายถูกสังหารในระหว่างการโจมตีทางอากาศซึ่งเริ่มขึ้นหนักหน่วงระรอกใหม่ที่นำตั้งแต่ 18 กุมภาพันธ์ โดยมีเด็ก และสตรีถูกสังหารไปแล้วราว 275 ราย
พื้นที่ซึ่งเป็นบ้านของประชาชน 400,000 คน ถูกปิดล้อมโดยระบอบการปกครองของาบาชาร์ อัล-อัสซาด หลังจากพวกเขาได้เข้าร่วมกับฝ่ายต่อต้านซีเรียและประกาศเอกราชปลดแอกตัวเองจากการปกครองของบาชาร์ อัล-อัสซาด ตั้งแต่ช่วงกลางปี 2013
การโจมตีอย่างรุนแรงต่อเป้าหมายพลเรือนเมื่อวันจันทร์ทำให้มีพลเรือนเสียชีวิตไปอีกอย่างน้อย 45 ราย ตามรายงานของกลุ่มสังเกตุการณ์เพื่อสิทธิมนุษยชนซีเรีย (SOHR)
อย่างน้อย 19 คนที่เสียชีวิตในเมือง Hammuriyeh ซึ่งถูกทิ้งระเบิดโจมตีอย่างหนัก
SOHR กล่าวว่าจำนวนผู้เสียชีวิตอาจเพิ่มขึ้นเนื่องจากศพจำนวนมากถูกฝั่งอยู่ใต้ซากปรักหักพัง
Ali al-Za’tari เจ้าหน้าที่อาวุโส UN กล่าวว่าเขา “ไม่พอใจ” ที่ยังคงได้ยินเสียงปืนใหญ่ใกล้จุดผ่านในฆุตเฎาะห์ตะวันออก แม้จะมีข้อตกลงว่าจะช่วยให้การดำเนินการช่วยเหลือเป็นไปได้โดยปลอดภัยก็ตาม
“เราจำเป็นต้องมั่นใจว่าเราจะสามารถให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมภายใต้สภาวะที่ดี” เขากล่าว
มติเป็นเอกฉันท์ของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ในการหยุดยิง 30 วันในซีเรียที่เริ่มตั้งแต่วันที่ 24 กุมภาพันธ์ได้ล้มเหลวอย่างมาก
ชาวฆุตเฎาะห์ตะวันออก ดินแดนที่อยู่ติดกับกรุงดามัสกัส และเป็นที่รู้จักในฐานะเมืองแห่งการผลิตอาหารหล่อเลี้ยงเมืองหลวง จากความไม่มั่นใจในคำประกาศหยุดยิงเพียงวันละ 5 ชั่วโมงของรัสเซีย ที่เริ่มขึ้นเมื่อวันอังคารที่(27 กุมภาพันธ์)ผ่านมา
การหยุดชั่วคราวเหล่านี้ควรจะสร้าง “ทางเดินเพื่อมนุษยธรรม” เพื่อให้สามารถอพยพผู้ที่แสวงหาการรักษาพยาบาล และเข้ารับการช่วยเหลือจากขบวนบรรเทาทุกข์ได้ แต่การโจมตีทางอากาศยังคงเกิดขึ้นต่อเนื่องและมุ่งเป้าไปที่พลเรือน และพื้นที่อยู่อาศัย
