นางอองซาน ซูจี ผู้นำของพม่าอ้างเหตุป่วยยกเลิกการกล่าวสุนทรพจน์ และการตอบข้อซักถามที่จัดขึ้นในนครซิดนีย์ หลังจากในช่วงการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนมีมวลชนจำนวนมากออกมาประท้วงผู้นำพม่า กัมพูชา และเวียดนามในประเด็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน
ซูจีกำลังตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากการนิ่งเฉยต่อปฎิบัติการทางทหารในการปราบปรามชาวโรฮิงญาในรัฐยะไข่ ที่ทำให้ชาวมุสลิมโรฮิงญาราว 700,000 คน ต้องหนีตายไปยังบังกลาเทศ
ซูจีอยู่ระหว่างการเยือนกรุงแคนเบอร์รา หลังเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-ออสเตรเลียวาระพิเศษตั้งแต่วันศุกร์ เพื่อหารือกับนายกรัฐมนตรีมัลคอล์ม เทิร์นบูล และมีกำหนดที่จะกล่าวสุนทรพจน์ยังสถาบันโลวี ในนครซิดนีย์ในวันอังคาร (20 มีนาคม)
การกล่าวสุนทรพจน์และการตอบข้อซักถามจะเป็นการแสดงความเห็นต่อหน้าสาธารณชนเพียงครั้งเดียวของซูจีที่จะเกิดขึ้นระหว่างการเยือนออสเตรเลียครั้งนี้
“ในบ่ายวันนี้ สถาบันโลวีได้รับแจ้งจากสถานทูตพม่าว่าที่ปรึกษาแห่งรัฐจะไม่สามารถเข้าร่วมงานได้เนื่องจากเธอรู้สึกไม่สบาย ดังนั้นจึงต้องยกเลิกงานดังกล่าว” โฆษกสถาบันโลวีระบุในคำแถลง
วิกฤติด้านมนุษยธรรมของชาวโรฮิงญาเป็นหนึ่งในหัวข้อสำคัญของการประชุมสุดยอดวาระพิเศษระหว่างสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) และออสเตรเลีย ที่ผู้นำคนอื่นๆ ได้สอบถามซูจีถึงปัญหาดังกล่าวระหว่างการประชุมในวันอาทิตย์ ตามการเปิดเผยของผู้นำออสเตรเลีย
นายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัก ของมาเลเซีย เตือนเมื่อวันเสาร์ว่าวิกฤติปัญหานี้จะเป็นภัยคุกคามความมั่นคงของภูมิภาค หากผู้อพยพสิ้นหวังเหล่านี้ตกเป็นเหยื่อของกลุ่มหัวรุนแรงเช่นดาอิช
การอพยพของผู้คนเป็นจำนวนมากก่อให้เห็นความตึงเครียดในกลุ่มสมาชิกอาเซียน เมื่อมาเลเซีย ประเทศที่มีประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม ได้เรียกร้องการดำเนินการสอบสวนอิสระภายใต้การนำของอาเซียนต่อข้อกล่าวหาการละเมิดสิทธิของกองทัพพม่า
ในระหว่างการประชุมสุดยอดนัดพิเศษ ซูจี ตกเป็นเป้าวิพากษ์วิจารณ์จากผู้ชุมนุมประท้วงต่อต้านการละเมิดสิทธิมนุษยชน รวมทั้งนายกรัฐมนตรีฮุนเซนของกัมพูชา และนายกรัฐมนตรีเหวียน ซวน ฟุ้ก ของเวียดนาม
