ครอบครัวของศาสตราจารย์ชาวปาเลสไตน์ที่เป็นสมาชิกของกลุ่มฮามาสตั้งข้อสงสัยสายลับมอสซาดของอิสราเอลเกี่ยวข้องเหตุลอบสังหาร หลังคนร้ายใช้มอเตอร์ไซค์ขี่ประกบ ก่อนยิงศ.ฟาดี โมฮัมหมัด อัล-บาตช์ เสียชีวิตบนถนนในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ขณะกำลังเดินไปละหมาด
ตำรวยมาเลเซีย ระบุว่า ศ.ฟาดี โมฮัมหมัด อัล-บาตช์ วัย 35 ปี ถูกสังหารในการลอบยิงโดยคนร้ายขี้รถมอเตอร์ไซค์ประกบยิงขณะที่เขากำลังเดินไปเข้าร่วมละหมาดซุบฮิที่มัสยิดในวันเสาร์ (21 เมษายน)
ในคำแถลงจากครอบครัวของเขาในฉนวนกาซา ระบุว่า “เราสงสัยว่ามอสซาดอยู่เบื้องหลังการลอบสังหารครั้งนี้”
ด้านกลุ่มฮามาส ระบุว่า ศ.บาตช์ นักวิทยาศาสตร์วิจัยที่เชี่ยวชาญด้านพลังงาน เป็นหนึ่งในสมาชิกของพวกเขา
ฮามาสเรียกศ.บาตช์ว่า “ผู้พลีชีพ”
อะหมัด ซาฮิด ฮามิดี รองนายกรัฐมนตรีของมาเลเซียกล่าวว่าผู้ต้องสงสัยเชื่อว่าเป็นชาวยุโรปที่มีการเชื่อมโยงกับหน่วยงานข่าวกรองต่างชาติ
หัวหน้าตำรวจกรุงกัวลาลัมเปอร์ ดาโต๊ะ สรี มัสลัน ลาซิม กล่าวว่า หนึ่งในผู้ต้องสงสัยสองคนบนรถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ “ยิงปืน 10 นัด ในจำนวนนี้ 4 นัดถูกศาสตราจารย์รายนี้ที่ศีรษะและลำตัว เขาเสียชีวิตคาที่”
“ตำรวจยังพบปลอกกระสุนสองปลอกที่นั่นด้วย” หัวหน้าตำรวจ กล่าว ตามรายงานของสำนักข่าวเบอร์นามา
หัวหน้าตำรวจกล่าวว่า คลิปวีดิโอจากกล้องวงจรปิดใกล้ที่เกิดเหตุเผยให้เห็น คนร้ายสองคนรออยู่ประมาณ 20 นาทีก่อนที่จะลงมือ
“เราเชื่อว่าศาสตราจารย์รายนี้เป็นเป้าหมายเพราะว่าคนอีกสองคนที่เดินผ่านสถานที่ดังกล่าวก่อนหน้านั้นไม่ได้ถูกทำร้าย เราจะดูบันทึกของกล้องวงจรปิดทั้งหมดในพื้นที่เพื่อระบุตัวคนร้ายและทะเบียนรถมอเตอร์ไซค์” เขากล่าว พร้อมเสริมว่าจะสอบสวนในทุกมิติ รวมทั้งการก่อการร้าย
อันวา เอช อัล-อักฮา เอกอัครราชทูตปาเลสไตน์ประจำประเทศมาเลเซีย กล่าวว่า ศ.บาตช์ เป็นผู้ช่วยอิหม่าม อาศัยอยู่ในมาเลเซียมาแล้ว 10 ปี โดยเขาถูกยิงขณะทำหน้าที่แทนอิหม่าม ฟาดิ ที่เดินทางไปเข้าร่วมประชุมที่ตุรกี
ครอบครัวของบาตช์เรียกร้องให้ทางการมาเลเซียสืบสวนการฆาตกรรมที่เกิดขึ้น และ “จับตัวคนร้ายให้ได้ก่อนที่พวกเขาจะหลบหนี” พวกเขายังร้องขอให้ส่งศพของเขากลับมายังบ้านเกิดในเมืองจาบัลยาในฉนวนกาซาด้วย
ทั้งนี้เชื่อว่าหน่วยมอสซาดได้ทำการลอบสังหารนักรบติดอาวุธและนักวิทยาศาสตร์ชาวปาเลสไตน์มาแล้วหลายคนในอดีต แต่ไม่เคยมีการยืนยันปฏิบัติการดังกล่าว
โดยมอสซาดต้องสงสัยในการลอบสังหารหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญด้านโดรนของฮามาส โมฮาเหม็ด ซูอารี ในตูนิเซียเมื่อปี 2016 และยังเชื่อว่ามอสซาดอยู่เบื้องหลังการสังหารแกนนำระดับสูงของฮามาส มาห์หมุด อัล-มับฮูห์ ในโรงแรมดูไบเมื่อปี 2010
