กลุ่มพันธการเมืองที่ให้การสนับสนุน Muqtada al-Sadr แกนนำชาวชีอะห์ในอิรักมีชัยชนะในการเลือกตั้งเหนือกลุ่มการเมืองที่มีอิหร่านอยู่เบื้องหลัง
อัล-ญะซีเราะห์รายงานว่า กลุ่มการเมืองที่ให้การสนับสนุน Muqtada al-Sadr ได้รับการเลือกตั้งผ่านเข้าสู่สภาได้มากที่สุดในการเลือกตั้งเมื่อวันเสาร์ที่(12 พฤษภาคม)ผ่านมา หลังจากพวกเขาถูกกีดกันออกจากอำนาจทางการเมืองมาเป็นเวลานาน และทำให้กลุ่มการเมืองที่มีอิหร่านอยู่เบื้องหลังที่ครองอำนาจในรัฐบาลอิรักปัจจุบันพ่ายแพ้อย่างราบคราบ
ในขณะที่ผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการจะมีขึ้นหลังจากนี้ โดยที่กลุ่มการเมืองของ Hadi al-Amiri ผู้บัญชาการทางทหารที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านมาเป็นอันดับ 2 ขณะที่กลุ่มการเมืองของนายกรัฐมนตรี Haider al-Abadi มาเป็นอันดับ 3
ขณะที่ผลการเลือกตั้งในจังหวัดนิเนเวย์ซึ่งมีจำนวนที่นั่งมากที่สุดเป็นอันดับสองรองจากเมืองหลวงของกรุงแบกแดด
การเลือกตั้งรัฐสภาเมื่อวันเสาร์เป็นการเลือกตั้งที่เกิดขึ้นครั้งแรกนับตั้งแต่ความพ่ายแพ้ของดาอิชที่เกิดขึ้นในปี 2017
การเลือกตั้งที่ถือเป็นการตัดสินอำนาจการบริหารของอดีตนายกรัฐมนตรี Abadi และคำมั่นสัญญาของเขาในการรวมกลุ่มชนชาวซุนหนีในอิรัก
อดีตนายกรัฐมนตรี Abadi เป็นผู้นำของกลุ่ม Nasr (ชัยชนะของอิรัก) ซึ่งเป็นชื่อที่ถูกนำมาใช้ประโยชน์โดยอ้างอิชจากชัยชนะเหนือกลุ่มดาอิชในปี 2017
นักวิเคราะห์หลายคนชี้ Abadi ที่จบการศึกษาจากอังกฤษซึ่งเป็นนายกรัฐมาตรีจากกลุ่มชีอะห์ที่คอยบริหารความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และอิหร่าน 2 มหาอำนาจที่มีอิทธิพลเหนือรัฐบาลอิรัก และถูกคาดหมายว่าจะได้รับเลือกให้เป็นนายกรัฐมนตรีต่ออีกสมัย
“ประเทศเพิ่งเอาชนะ ISIL ซึ่งส่งผลกระทบต่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ทุกคนหวังว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง และพวกเขาเห็นว่า Abadi เป็นแรงที่เป็นไปได้สำหรับการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เนื่องจากชัยชนะเหนือ ISIL” Ahmed Tariq ศาสตราจารย์ด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ของมหาวิทยาลัย Mosul บอกกับ อัล-ญะซีเราะห์
Abadi ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มชีอะห์อื่นๆ นอกจากกลุ่มของ Sadr ซึ่งเขามีนโยบาบที่จะดึงประเทศให้ใกล้ชิดกับอิหร่านมากขึ้น
Sadr เป็นหนึ่งในแกนนำชีอะห์ไม่กี่คนที่ต้องการดึงประเทศอิรักออกจากอิทธิพลของอิหร่าน และเข้ายังได้ร่วมสนับสนุนนโยบายของซาอุดิอาระเบียโดยการเดินทางเยือนซาอุดิอาระเบียเมื่อปีที่แล้ว ในความพยายามสกัดกั้นการแพร่ขยายอิทธิพลของอิหร่านในภูมิภาค
Sadr เป็นแกนนำในการต่อต้านกองทัพสหรัฐฯ โดยได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มคนยากจนในอิรัก โดยสหรัฐฯ เรียกนักรบกลุ่มนี้ว่ากองทหารมะห์ดี โดยพวกเขาถือเป็นภัยที่รุนแรงต่อทหารสหรัฐฯ ในอิรัก และในเดือนมิถุนายนเขาได้เปลี่ยนกองกำลังของตนมาสู่แนวทางสันติภาพ
Sadr นำกลุ่ม Al-Sairoon (The Marchers) ที่นำขบวนการ Sadrist และพรรคคอมมิวนิสต์ของอิรักมารวมกัน เป็นกลุ่มพันธมิตรได้ผลักดันการต่อต้านการทุจริต และต่อต้านพรรคฝ่ายซ้าย
จากการสำรวจความคิดเห็นทั่วอิรักในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา พบว่า 66 เปอร์เซ็นต์ของชาวอิรักได้ให้การตอบรับ Sadr ในทางบวก
แต่สถานการณ์ที่เป็นไปได้หลังจากลงคะแนนเสียงขึ้นอยู่กับจำนวนคะแนนเสียงที่ได้รับจากผู้สมัคร และยังรวมถึงบทบาทของอิหร่าน และความสามารถในการกดดันพันธมิตรของชีอะห์ในการจัดตั้งรัฐบาล
ในปัจจุบัน Al-Amiri’s Fatah Coalition ปัจจุบันอยู่ในอันดับ 2 มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับอิหร่าน กลุ่มนี้ทำหน้าที่เป็นที่รวมของกลุ่มชีอะห์สุดโต่งจากกลุ่ม Islamic Supreme Coalition of Iraq (ISCI) และกลุ่มอาสาสมัครชีอะห์ (Shia militia groups) ที่ได้รับการหนุนหลังจากอิหร่านและสหรัฐฯ อย่าง Popular Mobilization Units (PMUs)
ไม่มีกลุ่มใดที่จะได้ที่นั่งในสภาถึง 165 ที่นั่งที่จำเป็นสำหรับเสียงข้างมาก แต่กลุ่มที่มีคำแนนนำจะทำหน้าที่ในการรวมกลุ่มต่างๆ ในการจัดตั้งรัฐบาล
กระบวนการในการเลือกนายกรัฐมนตรีคนต่อไปคาดว่าจะใช้เวลาเป็นเดือน ๆ และน่าจะส่งผลต่อการกระจายอำนาจไปยังพรรคการเมืองต่างๆ ที่มีความขัดแย้งกัน
