ฝรั่งเศสจะมอบสิทธิความเป็นพลเมืองแก่คนเข้าเมืองผิดกฎหมายรายหนึ่งจากมาลี หลังเขาได้รับเชิดชูในฐานะวีรบุรุษ จากกรณีปีนอาคารด้วยมือเปล่าขึ้นไปช่วยชีวิตเด็กชายวัย 4 ขวบที่ห้อยอยู่ตรงระเบียงชั้น 4
โลกออนไลน์พากันเผยภาพวินาทีที่ มาโมดู กัสซามา วัย 22 ปีเสี่ยงชีวิตตัวเองเมื่อวันอาทิตย์ (27 พฤษภาคม) ด้วยการปีนระเบียงอาคารอพาร์ทเมนต์แห่งหนึ่ง เพื่อช่วยเด็กวัย 4 ขวบที่ห้องอยู่ตรงระเบียง สร้างความหวาดเสียวแก่พวกผู้เห็นเหตุการณ์ที่อยู่เบื้องล่าง
คลิปดังกล่าวเป็นที่แพร่หลายบนสื่อสังคมออนไลน์ และ กัสซามา ซึ่งได้รับฉายาว่า “สไปเดอร์-แมน” จากการปีนตึกช่วยเหลือหนูน้อยได้ทันเวลา ถูกเชิญไปพระราชวังเอลีเซ่ ซึ่งเป็นทำเนียบประธานาธิบดี อย่างทันควัน “ผมตัดสินใจทำมัน เพราะนั่นคือเด็ก” หนังสือพิมพ์ เลอ ปาริเซียน อ้างคำพูดของ กัสซามา “ผมปีนขึ้นไป ขอบคุณพระเจ้าผมช่วยชีวิตเขาไว้ได้”
ประธานาธิบดีมาครง กล่าวยกย่องการกระทำอันกล้าหาญของ กัสซามา และบอกว่าฝรั่งเศสจะมอบงานในตำแหน่งเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยฉุกเฉินให้แก่เขา “แน่นอนว่าเราจะตระเตรียมเอกสารที่ถูกต้องให้กับคุณ และถ้าคุณต้องการ เราจะเริ่มกระบวนการแปลงสัญชาติ เพื่อคุณจะได้เป็นคนฝรั่งเศส” เขากล่าว
กัสซามา เปิดเผยกับ มาครง ว่าเขาเคยพยายามข้ามทะเลเมดิเตอร์เรเนียนมายังอิตาลีในเดือนมีนาคม 2014 แต่ตอนนั้นถูกตำรวจจับได้เสียก่อน
ยุโรปเผชิญกับวิกฤตผู้อพยพมาตั้งแต่ปี 2015 ท่ามกลางสงครามกลางเมืองในลิเบียและซีเรีย ทั้งนี้ผู้คนมากกว่า 1 ล้านชีวิตจากแอฟริกาและตะวันออกกลาง พยายามเดินทางเข้ามายังทวีปแห่งนี้ผ่านตุรกีหรือไม่ก็อาศัยการล่องเรือข้ามน้ำข้ามทะเล
รัฐบาลของมาครง เคยบอกว่าต้องการจัดการกับประเด็นคนเข้าเมืองอย่างเข้มงวดและยุติธรรม แต่ต่อมาได้มีจุดยืนที่แข็งกร้าวขึ้น ในนั้นรวมถึงกรณีที่รัฐสภาเห็นชอบร่างกฎหมายฉบับหนึ่งซึ่งยกระดับกฎระเบียบด้านการลี้ภัยให้เข้มข้นขึ้น
“สิ่งที่คุณทำเหมือนกับพวกเจ้าหน้าที่ดับเพลิงทำ ถ้ามันตรงความปรารถนาของคุณ คุณสามารถเข้าร่วมกับกองตำรวจดับเพลิง หน้าที่การงานที่คุณสามารถทำแบบนั้นได้ทุกๆวัน” มาครงกล่ว
กัสซามาบอกกับ แอนเน ฮิดัลโก นายกเทศมนตรีปารีส ผ่านทางโทรศัพท์เมื่อวันอาทิตย์(27) ว่าเขาเดินทางมาจากมาลี เมื่อไม่กี่เดือนก่อนและต้องการใช้ชีวิตในฝรั่งเศส “ผมตอบกลับไปว่าพฤติกรรมวีรบุรุษของเขาคือแบบอย่างสำหรับพลเมืองทุกคนและเมืองปารีสมุ่งหวังสนับสนุนเขาในความพยายามตั้งรกรากในฝรั่งเศส” ฮิดัลโกกล่าว
พ่อของเด็กที่ถูกตำรวจควบคุมตัว ยอมรับกับเจ้าหน้าที่ว่าเขาทิ้งลูกไว้ให้อยู่เพียงลำพังเพื่อออกไปช็อปปิ้งและกลับมาบ้านช้ากว่าที่วางแผนเอาไว้ เพราะมัวแต่เล่นเกมโปเกมอนโก บนโทรศัพท์มือถือ “พฤติกรรมของเขาเข้าองค์ประกอบกระทำผิดฐานขาดความรับผิดชอบในฐานะผู้ปกครอง ซึ่งมีสิทธิ์ติดคุก 2 ปี” เจ้าหน้าที่ระบุ
