มีความเคลื่อนไหวและการแสดงความคิดเห็นอย่างกว้างขวาง ภายหลังกระทรวงศึกษาธิการตัดสินใจแก้ไขระเบียบเรื่องเครื่องแบบนักเรียน ไม่ให้เด็กมุสลิมเลือกแต่งกายตามหลักศาสนาโดยความสมัครใจ หากเรียนในโรงเรียนที่ตั้งอยู่บนที่ธรณีสงฆ์
มีรายงานว่าผู้ปกครองเด็กมุสลิมโรงเรียนอนุบาลปัตตานีที่ต่อสู้เรื่องนี้มานานนับเดือน เตรียมนัดหารือกันและอาจเลือกแนวทางให้บุตรหลานลาออกไปเรียนที่อื่น
ขณะที่ นายอารีเพ็ญ อุตรสินธุ์ อดีต ส.ส.นราธิวาส และอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้โพสต์ข้อความในเฟสบุ๊คส่วนตัว แสดงความเห็นในเรื่องนี้ว่า “ตามที่กระทรวงศึกษาธิการแก้ระเบียบการแต่งกายนักเรียน กรณีโรงเรียนที่เช่าพื้นที่ธรณีสงฆ์ ให้เป็นไปตามข้อตกลงระหว่างโรงเรียนกับวัดนั้น แน่นอนเป็นข้อยุติตามกฎหมาย แต่ไม่ยุติในด้านความรู้สึกทางใจ ความมีอคติต่อกัน และจะนำไปสู่ความไม่รักใคร่ ไม่สามัคคี ไม่กลมเกลียวของคนในชาติ นี่หรือผลผลิตการศึกษาของรัฐบาลยุคนี้ นี่หรือประชาธิปไตยตามวิถีไทย ไม่เคารพสิทธิของชนกลุ่มน้อยที่เขารักและหวงแหนที่จะปฏิบัติตามคำสั่งสอนที่ดีๆ ของศาสนา”
ส่วน อาบูฮาฟิส อัลฮากิม โฆษกมารา ปาตานี ซึ่งเป็น “องค์กรร่ม” ของกลุ่มผู้เห็นต่างจากรัฐ 6 กลุ่มที่ร่วมกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติสุขกับรัฐบาลไย แสดงความเห็นเช่นกันว่า “ณ ประเทศเพื่อนบ้าน นักเรียนมุสลิมใส่เครื่องแบบตามระเบียบศาสนา แต่นักเรียนต่างศาสนิก ก็ยังมีโอกาสเลือกเครื่องแบบที่ต่างกันได้ และเรียนด้วยกันได้ ไม่เห็นมีปัญหาตรงไหน…แต่ในอีกประเทศหนึ่งทำไมถึงใจแคบ และไม่ยอมรับความแตกต่างทางศาสนา และชาติพันธุ์ ทำเรื่องเล็กกลายเป็นใหญ่ ไร้สาเหตุ….หรือเอาส่วนใหนของร่างกายมาคิด..?”
ที่มา สำนักข่าวอิศรา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ศธ.แก้ระเบียบฯ ปิดช่องสวมฮิญาบในโรงเรียน “ที่ธรณีสงฆ์”
แม่ทัพภาค 4 ย้ำ ปมอนุบาลปัตตานี “ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายและยอมรับกติกา”
เว็บอนุบาลปัตตานีเผยมุสลิมร่วมบริจาคที่ดินให้โรงเรียนในปี 2519
ศธ.ไฟเขียวนร.อนุบาลปัตตานีคลุมฮิญาบได้