กลุ่มก่อการร้ายฮิสบุลลาต 8 คนจากเลบานอนตายในเมือง Maran ทางตอนเหนือของเยเมน ใกล้กับซาอุดิอาระเบียจากการโจมตีของกลุ่มพันธมิตรชาติอิสลามที่นำโดยซาอุดิอาระเบีย
การมีกองกำลังติดอาวุธฮิสบุลลาตที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านในฐานที่มั่นของกลุ่มกบฎชีอะห์ฮูธีย์ในจังหวัด Saada ฐานที่มั่นของกลุ่มกบฎชีอะห์ เป็นหลักฐานชิ้นสำคัญที่ยืนสันว่าอิหร่านเป็นผู้จัดหาขีปนาวุธให้กับกลุ่มกบฎชีอะห์ฮูธีย์ และส่งช่างเทคนิคจากกลุ่มฮิสบุลลาตเพื่อกำหนดเป้าหมายโจมตีซาอุดิอาระเบีย
“รัฐบาลได้ฆ่าผู้ก่อการร้าย 41 รายใน Maran และทำลายยานพาหนะ และอุปกรณ์ทางทหารของพวกเขา ในหมู่ผู้เสียชีวิตมีสมาชิก 8 คนของกลุ่มฮิสบุลลาต ที่รวมทั้งสมาชิกระดับบัญชาการ” พ.อ. Turki Al-Maliki โฆษกกลุ่มพันธมิตชาติอิสลามกล่าวในวันจันทร์ที่(25 มิถุนายน)ผ่านมา
จำนวนของขีปนาวุธที่ถูกยิงจากเยเมนเข้าสู่ซาอุดีอาระเบียได้กำหนดเป้าหมายพลเรือนเช่นที่มหานครมักกะห์, เมืองริยาด และเมืองทางตอนใต้อย่างจังหวัดจาซาน และนัจราน โดยหนึ่งในการโจมตีที่เกิดขึ้นในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมายืนยันได้ชัดเจนว่าเป็นการดำเนินการภายใต้การรับผิดชอบของกลุ่มก่อการร้ายฮิสบุลลาต ตามการเปิดเผยของ Adel Al-Jubeir รัฐมนตรีต่างประเทศซาอุดีอาระเบีย
กลุ่มพันธมิตรได้เปิดเผยหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าขีปนาวุธเหล่านี้ถูกผลิตในอิหร่าน รวมถึงกลไกการในการขับเคลื่อนที่มีหลักฐานชัดเจนว่าผลิตโดยอิหร่าน
ส่วนของขีปนาวุธถูกลักลอบเข้าไปในเยเมนผ่านทางท่าเรือฮุไดดาห์ในทะเลแดง และกองกำลังพันธมิตรได้เปิดปฎิบัติการทางทหารตั้งแต่วันที่ 12 มิถุนายนเพื่อยึดคืนท่าเรือดังกล่าวจากการยึดครองของกลุ่มกบฎฮูธีย์
เจ้าหน้าที่ซาอุดิอาระเบียย้ำมาตลอดว่าการแทรกแซงทางทหารของพวกเขาในเยเมนเป็นสงครามที่จำเป็นต้องดำเนินการเพื่อความมั่นคง ปลอดภัยของภูมิภาค ไม่ใช่สงครามที่ถูกเลือกตามการเปิดเผยของ Fahad Nazer นักวิเคราะห์การเมืองของซาอุดีอาระเบียและ Fellow International ที่สภาความสัมพันธ์สหรัฐฯ-อาหรับ
“ความจริงที่ว่ากลุ่มกบฎฮูธีย์ยังคงยิงขีปนาวุธขีปนาวุธรับมาจากอิหร่านเข้าใส่เป้าหมายพลเรือนในซาอุดีอาระเบียรวมถึงเมืองริยาด ซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญว่ากบฎฮูธีย์ เป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อความมั่นคงของประเทศในภูมิภาคแห่งนี้รวมทั้งเป็นภัยต่อซาอุดิอาระเบียด้วย” เขากล่าวกับ อาหรับนิวส์
“Houthis ได้แสดงให้เห็นถึงความรู้สึกไม่เคารพต่อความปลอดภัยและความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนชาวเยเมนดังนั้นจึงไม่แปลกใจที่พวกเขาแสดงความไม่เห็นด้วยกับกฎหมายสงครามโดยการกำหนดโครงสร้างพื้นฐานของพลเรือนในซาอุดิอาระเบีย”
Nazer อยู่ที่ริยาดในเดือนเมษายนเมื่อกลุ่มกบฎชีอะห์ฮูธีย์ ยิงขีปนาวุธขีปนาวุธซึ่งถูกยิงสกัดได้เหนือเมืองหลวงของซาอุดีอาระเบีย
“ซาอุดีอาระเบียมีสิทธิที่จะใช้มาตรการทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อให้แน่ใจว่าพลเรือน และโครงสร้างพื้นฐานของประเทศจะไม่ได้รับความเสี่ยงจากการโจมตีของกลุ่มผู้ก่อการร้ายนี้”เขากล่าว
พร้อมระบุอีกว่า “ไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่รัฐบาลที่ถูกต้องตามกฎหมายของประเทศเยเมน และกลุ่มพันธมิตรชาติอิสลามที่นำโดยซาอุดิอาระเบีย จะได้รับการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศทั้งหมด”
ในขณะที่ซาอุดิอาระเบียได้ดำเนินการกวาดล้างผู้ก่อการร้ายอย่างต่อเนื่องหลังจากการโจมตีครั้งล่าสุดเมื่อคืนวันอาทิตย์เมื่อการป้องกันทางอากาศของซาอุดีอาระเบียได้สกัดกั้นขีปนาวุธสองลูกที่ถูกยิงหวังโจมตีเป้าหมายในเมืองหลวง
ซากขีปนาวุธตกลงใกล้กับฐานปฎิบัติการของสหรัฐฯ และที่โรงเรียนซึ่งตั้งอยู่ในย่านการทูต และบนหลังคาของที่พักอาศัยส่วนตัวของประชาชน แต่ไม่มีความเสียหายร้ายแรง