ล่าสุดตัวเลขผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์น้ำท่วม และดินถล่มทางภาคตะวันตกของญี่ปุ่นพุ่งสูงขึ้นไม่น้อยกว่า 76 คน ขณะที่ยังมีอีกอย่างน้อย 92 คนสูญหาย ท่ามกลางการระดมกำลังตำรวจ ดับเพลิง และกองกำลังปกป้องตนเองอีก 54,000 นายระดมค้นหา ขณะที่ประชาชนร่วม 4.3 ล้านคนตั้งแต่ภาคกลางไปจนถึงตะวันตกเฉียงใต้ได้รับคำแนะนำให้อพยพ
ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เกิดขึ้นในจ.ฮิโรชิมา ที่ประสบกับสภาพฝนที่ตกหนักมาตั้งแต่วันพฤหัสบดี(5) มีบ้านจำนวนหลายร้อยหลังถูกทำลาย
ประชาชนร่วม 1.5 ล้านคนถูกสั่งให้อพยพออกจากบ้านเรือน และมีประชาชนอีกร่วม 3 ล้านคนได้รับคำแนะนำให้อพยพ ซึ่งเจ้าหน้าที่ชี้ว่าภัยพิบัติล่าสุดที่เกิดฝนตกหนักนั้นเชื่อว่าร้ายแรงมากที่สุดในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นในรอบหลายสิบปี
ในขณะที่ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ชินโซ อาเบะ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ต้องทำงานแข่งกับเวลาเพื่อช่วยชีวิต และนำคนเหล่านั้นออกมาจากพื้นที่
ขณะที่สื่อท้องถิ่นรายงานโดยอ้างเลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น โยชิฮิเดะ ซูงะ ว่าเจ้าหน้าที่จำนวน 54,000 นายจากทั้งตำรวจ เจ้าหน้าที่ดับเพลิง และทหารกองกำลังปกป้องตนเองญี่ปุ่นถูกส่งเข้าร่วมปฎิบัติการค้นหา และช่วยชีวิต
สำนักข่าวเกียวโดของญี่ปุ่นรายงานว่า มีผู้เสียชีวิตบางรายถูกดินถล่มฝังร่างไว้ทั้งเป็น
ในเมืองโมโตยามะ(Motoyama) ห่างจากกรุงโตเกียวไปทางตะวันตกราว 600 กิโลเมตร พบฝนตกหนักวัดได้ถึง 23 นิ้วในช่วงระหว่างเช้าวันศุกร์(6)และเช้าวันเสาร์(7) สำนักงานอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นกล่าวผ่านแถลงการณ์
นอกจากนี้ในจ.โคชิ สำนักงานอุตุนิยมวิทยาแถลงว่า พบฝนตกหนักที่สุดนับตั้งแต่ปี 1976 ซึ่งภายในแค่ 3 ชั่วโมงในพื้นที่หนึ่งวัดน้ำฝนตกหนักได้ถึง 10.4 นิ้ว
และยังมีการคาดว่าจะมีฝนตกต่อไปในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
ในขณะที่เมืองเกียวโตห่างไป 300 กิโลเมตรไปทางตะวันออกของฮิโรชิมา ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก โดยชาวเมืองเกียวโต มานาบู ทาเคชิตะ (Manabu Takeshita) ได้ให้สัมภาษณ์ว่า “ใครก็ตามที่อาศัยอยู่ใกล้แม่น้ำต้องรู้สึกขวัญผวา เพราะฤดูไต้ฝุ่นเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้น”
จ.โคชิที่อยู่บนเกาะชิโกกุได้ออกคำสั่งเตือนแผ่นดินถล่ม ซึ่งเป็นคำเตือนครอบคลุมพื้นที่เกือบทั่วทั้งเกาะ โดยสถานีโทรทัศน์ NHK ได้แสดงสภาพรถจำนวนหนึ่งที่อยู่ในสภาพหงายท้องทั้งคันบนถนนที่ถูกปกคลุมไปด้วยโคลน ส่วนพนักงานร้านสะดวกซื้อรายหนึ่งที่หนีภัยไปอยู่บนหลังคาในบริเวณใกล้กันบอกว่า น้ำมาถึงในระดับความสูงเท่ากับศีรษะของเขา
และสำหรับจ.โอกายามา พบว่ามีผู้เสียชีวิตเกิดขึ้น 3 ราย 6 รายสูญหาย และอีก 7 คนได้รับบาดเจ็บ โดยมี 1 คนมีอาการสาหัส และบ้าน 6 หลังถูกทำลาย ในขณะที่เกือบ 500 หลังถูกน้ำท่วม ในแถลงการณ์ของจ.โอกายามาระบุว่า คำสั่งการอพยพเกิดขึ้นกับประชาชนในพื้นที่จำนวน 910,000 คน
ส่วนในจ.ฮิโรชิมาพบว่า มีผู้เสียชีวิตจำนวนไม่มากนักจากเหตุดินถล่ม และร่างผู้เสียชีวิตถูกพบจำนวนมากขึ้นจากบ้านพักที่พังลงมาในเขตเมืองเก่าเกียวโต ซึ่งทั้ง 2 พื้นที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากฝนพันปีที่ตกลงมา ซึ่งที่เมืองมิฮารา ทางใต้ของจ.ฮิโรชิมา พบว่า เจ้าหน้าที่กู้ภัยพยายามที่จะนำกองภูเขาโคลนดินออกไปจากถนน
เจแปนไทม์สรายงานเพิ่มเติมว่า เจ้าหน้าที่กู้ภัยขยายพื้นที่การค้นหาคนที่สูญหายและที่ติดอยู่ในที่ต่างๆ จากเหตุน้ำท่วมและแผ่นดินถล่ม ซึ่งพบว่าคำแนะนำการอพยพออกยังคงมีผลต่อไปสำหรับประชาชน 4.3 ล้านคนใน 23 จังหวัดทั่วประเทศตั้งแต่ภาคกลางไปจนถึงภาคตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ
ซึ่งเลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นยืนยันว่า มีผู้สูญหายอยู่จำนวน 92 คน
ทั้งนี้มีรายงานการสูญเสียมากกว่า 100 ครั้ง เป็นต้นว่ารถถูกน้ำพัดหายไป เลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นกล่าวต่อว่า เฮลิคอปเตอร์จำนวน 40 ลำได้ถูกส่งไปร่วมปฎิบัติการ