การโจมตีทางอากาศของกลุ่มพันธมิตรที่นำโดยสหรัฐอเมริกาต่อเป้าหมายที่อ้างเป็นที่มั่นสุดท้ายของกลุ่มดาอิช ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 54 ราย โดยกว่าครึ่งเป็นพลเรือน
กองกำลังพันธมิตรต่อต้านการก่อการร้ายที่นำโดยสหรัฐฯ อาจดำเนินการโจมตีทางอากาศในพื้นที่ และกำลังสืบสวนการเสียชีวิตของพลเรือนตามรายงานที่ถูกเปิดเผย
กลุ่มสังเกตุการด้านสิทธิมนุษยชนซีเรีย (SOHR) เปิดเผยว่าการโจมตีที่เกิดเมื่อวันพฤหัสบดี(12 กรกฎาคม)ที่ต่อเป้ากมายโรงงานผลิตน้ำแข็งใกล้หมู่บ้าน Al-Soussa ใกล้กับพรมแดนอิรักทำให้มีพลเรือน 28 รายถูกสังหาร พร้อมกลุ่มดาอิช 26 ราย
ยังไม่ชัดเจนว่าการโจมตีทางอากาศที่เกิดขึ้นทางตะวันออกของเมือง Deir Ezzor ดำเนินการโดยเครื่องบินอิรักหรือกลุ่มพันธมิตรที่นำโดยสหรัฐฯ
แถลงการณ์ของพันธมิตรที่นำโดยสหรัฐฯกล่าวว่า “กลุ่มพันธมิตรหรือกองกำลังพันธมิตรของเราอาจดำเนินการโจมตีทางอากาศในบริเวณใกล้เคียงกับ Al-Soussa และ Baghour Fukhani ในวันพฤหัสบดีนี้
“เรากำลังดำเนินการเพื่อประเมินต่อข้อกล่าวหาว่ามีพลเรือนเสียชีวิต”
เครื่องบินรบอิรักได้ดำเนินการโจมตีกลุ่มดาอิชทางตะวันออกของซีเรียเมื่อไม่นานมานี้ขณะที่เครื่องบินของกลุ่มพันธมิตรที่สนับสนุนปฎิบัติการภาคพื้นดินของกลุ่มนักรบชาวเคิร์ดในการต่อต้านดาอิชก็ปฎิบัติการอยู่ในพื้นที่เช่นกัน
นักรบของกลุ่มดาอิชยังคงมีที่มั่นอยู่ในรอยต่อซีเรียและอิรักตามรายงานของกลุ่มสังเกตุการณ์
สำนักข่าว SANA ของระบอบบาชาร์ อัล-อัสซาด รายงานข่าวการโจมตีเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาระบุว่าพลเรือนกว่า 30 คนถูกสังหาร และรายงานว่าเป็นการดำเนินการของกลุ่มพันธมิตร
กลุ่มดาอิชแพร่ขยายอิทธิพลไปทั่วซีเรีย และอิรักในช่วงปี 2014 พร้อมประกาศตั้งรัฐอิสลามในพื้นที่ภายใต้การยึดครองของตน
ดาอิชได้สูญเสียพื้นที่เป็นอย่างมากจากปฏิบัติการของหลายฝ่าย แต่ยังคงรักษาที่มั่นจำนวนหนึ่งในซีเรียรวมทั้งในทะเลทราย Badiya และในจังหวัด Deir Ezzor
นักรบดาอิชต้องเผชิญหน้ากับการโจมตีในจังหวัด Deir Ezzor จากทั้งสองฝั่งของแม่น้ำยูเฟรติส
กองกำลังของรัสเซียที่ดำเนินการโจมตีทางอากาศเพื่อสนับสนุนกลุ่มนักรบชีอะห์ทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำ ขณะที่กองกำลังเคิร์ดที่มีสหรัฐฯให้การหนุนหลังได้บุกโจมตีทางตะวันออกของแม่น้ำ
หมู่บ้าน Al-Soussa ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของแม่น้ำยูเฟรติด ยังคงอยู่ภายใต้การยึดครองของกลุ่มดาอิช
แม้กลุ่มนักรบดาอิชจะถูกผลักดันออกจากเมืองใหญ่ของซีเรีย แต่นักวิเคราะห์บอกว่าพวกเขายังคงยังษาที่มั่นในดินแดนทะเลทรายไว้ได้
เมื่อเดือนที่แล้วการโจมตีของกลุ่มดาอิชต่อเป้าหมายในเมือง Albu Kamal ทางตะวันตกของแม่น้ำยูเฟรติส ทำให้กลุ่มติดอาวุธชีอะห์ของระบอบบาชาร์ อัล-อัสซาด หลายคนเสียชีวิตและเสียขวัญ
การโจมตีเกิดขึ้นหลังจากที่กลุ่มดาอิชได้อพยพออกจากป้อมปราการสุดท้ายของพวกเขาที่อยู่นอกเมืองดามัสกัสและไปรวมตัวกันยังดินแดนทะเลทราย Badiya ตามรายงานของกลุ่มสังเกตการณ์
นอกจากนี้ดาอิชยังคงมีที่มั่นบางส่วนอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจังหวัดอิดลิบ และทางตะวันตกเฉียงใต้ของจังหวัดดารา ซึ่งยังคงมีการปะทะกับกลุ่มนักรบฝ่ายต่อต้านซีเรียอย่างต่อเนื่อง และล่าสุดก็เกิดขึ้นในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ระบอบบาชาร์ อัล-อัสซาด และกลุ่มนักรบฝ่ายต่อต้านซีเรียได้มีข้อตกลงหยุดยิงเพื่อรักษาชีวิตพลเรือนชาวซีเรีย โดยแลกกับการที่ต้องให้กองกำลังของบาชาร์ อัล-อัสซาด เข้าควบคุมเมืองดาราทั้งหมด แต่กลุ่มดาอิชไม่รวมอยู่ในข้อตกลงดังกล่าว
กลุ่มดาอิชยังคงปกครองพื้นที่ดินชายแดนจอร์แดน และที่ราบสูงโกลันที่ตกอยู่ภายใต้การยึดครองของอิสราเอล
ทั้งนี้เมื่อคืนวันพุธ ต่อเนื่อง วันพฤหัสบดี กลุ่มดาอิชได้บุกเข้ายึดหมู่บ้าน Heet จากกลุ่มนักรบฝ่ายต่อต้านซีเรีย หลังการปะทะกันอย่างรุนแรง แต่นักรบฝ่ายต่อต้านอยู่ในภาวะเสียเปรียบหลังส่งมอบอาวุธหนักให้กองกำลังบาชาร์ อัล-อัสซาดตามข้อตกลงหยุดยิงที่ทำขึ้น
:อาหรับนิวส์
