ฉนวนกาซาเริ่มเกิดปัญหาการขาดแคลนก๊าซหุงต้มหลังจากอิสราเอลปิดด่านพรมแดน Kerem Shalom ซึ่งเป็นด่านผ่านแดนเชิงพาณิชย์แห่งเดียวที่อนุญาตให้สินค้าผ่านเข้าไปในแถบที่ถูกปิดล้อมได้
คำประกาศจากบริษัทจัดจำหน่ายก๊าซหุงต้มในดินแดนที่ถูกปิดล้อมตามรายงานของสำนักข่าว Wafa ระบุว่า “เวลานี้ก๊าซสำรองของบริษัทหมดแล้ว” ภายในเวลาไม่ถึงสองสัปดาห์หลังจากการปิดด่านของอิสราเอล
เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคมที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีอิสราเอลเบนจามิน นาทานนาฮูประกาศว่าอิสราเอลจะปิดด่านพรมแดน Kerem Shalom (Karm Abu Salem) ซึ่งอยู่ทางใต้สุดของฉนวนกาซา โดยอ้างว่าเป็นการตอบโต้ที่ชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซาที่ปล่อยว่าว และลูกโป่งข้ามแดนเข้ามา
อย่างไรก็ตามเมื่อวันที่ 17 กรกฏาคมที่ผ่านมาอิสราเอลได้ประกาศปิดด่านพรมแดนอย่างสมบูรณ์ ในขณะที่ก่อนหน้านี้อิสราเอลเคยอนุญาตให้มีการป้อนรถบรรทุก 300 ถึง 400 เที่ยวเข้าไปในฉนวนกาซา แต่ภายใต้คำประกาศใหม่อิสราเอลให้รถบรรทุกเพียง 150 เที่ยวเท่านั้นที่เข้าในพื้นที่ นอกจากนี้ยังลดพื้นที่การหาปลาของชาวประมงลงจากเดิม 14 กิโลเมตร เหลือเพียง 9 กิโลเมตรจากฝั่ง
ผู้สังเกตการณ์ระหว่างประเทศประณามการปิดด่านพรมแดน Kerem Shalom ของอิสราเอล ผู้ประสานงานพิเศษขององค์การสหประชาชาติในกระบวนการสันติภาพในตะวันออกกลาง Nicolay Mladenov ได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับข้อมาตรการใหม่ของอิสราเอลว่า “ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมไม่สามารถทดแทนการค้าในรูปแบบปกติได้ ขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ [อิสราเอล] กลับตัดสินใจครั้งนี้ ”
องค์กรสิทธิเสรีภาพของอิสราเอล Gisha ยังเรียกร้องให้นาทานนาฮู และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม Avigdor Lieberman เพื่อ “ยกเลิกข้อข้อจำกัดที่รุนแรงในการห้ามการผ่านแดนของสินค้าผ่านทางด่านพรมแดน Kerem Shalom ไปยังฉนวนกาซา” Gisha ยังได้ประกาศอย่างที่ไม่เคยมาก่อนโดยระบุว่าการกระทำของอิสราเอล “ผิดศีลธรรมและผิดกฎหมาย”
กลุ่มอิสลามิกญิฮาดออกมาระบุว่าอิสราเอลพยายามกดดันชาวปาเลสไตน์สงคราม แต่ “เรื่องนี้จะไม่ทำให้ชาวปาเลสไตน์หยุดการสนับสนุนการทำงานของพวกเขา”
ปัญหาการขาดแคลนก๊าซหุงต้มที่เกิดจากการปิดด่านพรมแดนทำให้สถานการณ์ทางเศรษฐกิจ และสังคมในฉนวนกาซาตกต่ำ ซึ่งเป็นผลกระทบที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องหลังจากอิสราเอลบุกโจมตีต่อฉนวนกาซานับตั้งแต่ปี 2550
เมื่อวันพุธที่ผ่านมาคณะกรรมการเพื่อการยุติการปิดล้อมฉนวนกาซาระบุว่า ร้อยละ 80 ของโรงงานในแถบนี้ปิดตัวลงบางส่วนหรือทั้งหมด ส่งผลทันทีทำให้เกิดผู้ว่างงาน 300,000 คน หัวหน้าของคณะกรรมการ Jamal Al-Khodari กล่าวว่าอิสราเอลมีเป้าหมายที่จะ “ทำลายเศรษฐกิจกาซา” ด้วยการปิดกั้นการนำเข้า และส่งออกในพื้นที่
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาผู้ป่วยชาวปาเลสไตน์ในโรงพยาบาลของเมืองกาซายังได้กระตุ้นให้เห็นถึงปัญกาการขาดแคลนสถานบริการทางการแพทย์ในพื้นที่ ซึ่งโรงพยาบาลในฉนวนกาซาประสบปัญหาการขาดแคลนในยา, อุปกรณ์ห้องปฏิบัติการ และวัสดุการทดสอบ อันเนื่องมาจากการปิดล้อมของอิสราเอล และการที่รัฐบาลปาเลสไตน์ยังคงคว่ำบาตรต่อดินแดนฉนวนกาซาทีอำนวจรัฐบาลปาเลสไตน์ยังเข้ามาไม่ถึง