ชาวเดนมาร์กประท้วงกฎหมาย “ห้ามสวมฮิญาบปิดหน้า”

ชาวเดนมาร์กนับพันคนออกมาร่วมประท้วงในกรุงโคเปนเฮเกน เพื่อประท้วงกฎหมายห้ามคลุมฮิญาบแบบปิดหน้าของรัฐบาล ชี้เป็นการละเมิดสิทธิของสตรีในการแต่งกายในแบบที่พวกเธอต้องการ

theGuardian รายงานว่าชาวเดนมาร์กนับพันคนร่วมชุมนุมกันในกรุงโคเปนเฮเกนในวันพุธ(1 สิงหาคม)เพื่อประท้วงการมีผลบังคับใช้ของกฎหมายห้ามสวมฮิญาบแบบปิดหน้าในที่สาธารณะ พร้อมระบุว่าการดำเนินการของรัฐบาลเป็นการละเมิดสิทธิสตรีในการแต่งกายตามที่พวกเธอเลือก

รัฐสภาของเดนมาร์กได้ประกาศเมื่อเดือนพฤษภาคมในการตามรอยฝรั่งเศส และประเทศในสหภาพยุโรปอื่น ๆ ในสิ่งที่นักการเมืองบางคนอ้างว่าเป็นการผ่านกฎหมายเพื่อสนับสนุนค่านิยมทางโลก และประชาธิปไตย

ผู้ประท้วงหลายคนสวมผ้าคลุมหน้าทั้งนิกอบ และบูรเกาะ พร้อมทั้งเดินขบวนจากใจกลางเมือง Norrebro ไปยัง Bellahoj station ในเขตชานเมือง

ผู้ประท้วงที่มาพร้อมกับเด็กๆ รวมทั้งชาวมุสลิมที่คลุมฮิญาบแบบปิดหน้า และที่คลุมฮิญาบทั่วไป โดยไม่มีรายงานเหตุรุนแรงใดๆ เกิดขึ้น

“เราจำเป็นต้องส่งสัญญาณให้กับรัฐบาลเห็นว่า เราจะไม่ยอมแพ้ต่อการเลือกปฎิบัติ และกฎหมายที่กำหนดเป้าหมายเฉพาะชนกลุ่มน้อยทางศาสนา” ซาบีน่าวัย 21 ปี กล่าว

เธอเป็นหนึ่งใน 150 ถึง 200 คนของมุสลิมะห์ หรือราว 0.1% ของผู้ที่อยู่อาศัยในประเทศเดนมาร์กที่สวมใส่นิกอบ หรือบูรเกาะในชีวิตประจำวัน โดยชาวมุสลิมคิดเป็นประมาณ 5% ของประชากรของเดนมาร์กที่มีจำนวน 5.7 ล้านคน

ภายใต้กฎหมายใหม่ตำรวจจะสามารถสั่งให้ผู้หญิงถอดผ้าคลุมฮิญาบออก หรือสั่งให้ออกนอกพื้นที่ได้ โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมของประเทศเดนมาร์ก Søren Pape Poulsen กล่าวว่าเจ้าหน้าที่จะเปรียบเทียบปรับพวกเธอ และบอกให้พวกเธอกลับบ้าน

อัตราค่าปรับจะเริ่มต้นตั้งแต่ 1,000 โครนเดนมาร์ก (5,200 บาท) สำหรับความผิดครั้งแรก และจะปรับในอัตราสูงสุดในครั้งที่ 4 เป็นต้นไป อยู่ที่ 10,000 โครนเดนมาร์ก (52,000 บาท)

นักวิจารณ์ตั้งข้อสังเกตว่าชาวมุสลิมที่สวมนิกอบในประเทศมีน้อยมาก โดยการออกกฎหมายทำให้เพิ่มความรู้สึกที่ถูกมองว่าเป็นการต่อต้านผู้อพยพในประเทศ

“ถ้าความตั้งใจของกฎหมายฉบับนี้คือการปกป้องสิทธิของสตรีแล้ว มันได้ล้มเหลวอย่างมาก” Fotis Filippou รองผู้อำนวยการองค์การนิรโทษกรรมสากลของยุโรปกล่าว

ตำรวจกล่าวว่าไม่มีผู้ประท้วงที่สวมผ้าปิดหน้ารายใดถูกลงโทษเนื่องจากเป็นการใช้ผ้าคลุมหน้าเพื่อแสดงออกถึงการใช้เสรีภาพในการพูดในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของการประท้วงอย่างสันติ ซึ่งจะได้รับการยกเว้นจากกฎหมาย

กระทรวงยุติธรรมเดนมาร์กอ้างว่ากฎหมายนี้จะมุ่งเน้นไปที่มุสลิมะห์ที่ครอบครัวของพวกเธอบังคับให้สวมผ้าคลุมฮิญาบ

หัวหน้าสหภาพการตำรวจเดนมาร์ก Claus Oxfeldt กล่าวว่าเขาต้องการคำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีบังคับใช้กฎหมาย พร้อมระบุว่าเขาไม่แน่ใจเช่นว่านักท่องเที่ยวชาวเอเชียที่สวมหน้ากากป้องกันมลภาวะจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายนี้ด้วยหรือไม่

ฝรั่งเศสซึ่งเป็นชุมชนมุสลิมที่ใหญ่ที่สุดในสหภาพยุโรปรวมถึงเบลเยียม, เนเธอร์แลนด์, บัลแกเรีย และรัฐบาวาเรียของเยอรมันต่างออกกฎหมายห้ามการสวมฮิญาบแบบปิดหน้าในที่สาธารณเช่นกัน

ฝรั่งเศสได้ผ่านกฎหมายดังกล่าวตั้งแต่ปี 2011 จนทำให้เกิดข้อถกเถียงอย่างรุนแรง แต่ปัจจุบันก็ยังมีสตรีมุสลิมคลุมฮิญาบแบบปิดหน้าเดินบนถนนแม้จะมีกฎหมายห้ามแล้วก็ตาม

ความคิดเห็น

comments