รัสเซียเร่งเสริมกำลังทางทหารในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนใกล้ซีเรีย ตามรายงานของสื่อรัสเซียในวันอังคาร (28 สิงหาคม) ในขณะที่มีการคาดการณ์ว่า บาชาร์ อัล-อัสซาด กำลังวางแผนโจมตีจังหวัดอิดลิบที่อยู่อาศัยของชาวซีเรียนับล้านคนที่อพยพหนีตายจากการโจมตีพื้นที่ต่างๆ ในซีเรียมารวมอยู่ที่นี่
รัสเซียกล่าวหาการซ้อมกู้ภัยจากการโจมตีด้วยอาวุธเคมีของฝ่ายต่อต้านซีเรีย เป็นการวางแผนจัดฉากการใช้อาวุธเคมีในจังหวัดอิดลิบเพื่อยั่วยุให้ฝ่ายตะวันตกโจมตีระบอบการปกครองของบาชาร์ อัล-อัสซาด
หนังสือพิมพ์คอมเมอซานต์ รายงานว่า รัสเซียส่งเรือรบ 2 ลำและระบบขีปนาวุธต่อต้านอากาศยานหนึ่งหน่วยไปยังทะเลเมดิเตอร์เรเนียนเมื่อเดือนสิงหาคม
หนังสือพิมพ์ที่สนับสนุนรัฐบาลรัสเซีย อิซเวสเตีย ระบุว่า ปัจจุบันรัสเซียมีเรือรบ 10 ลำและเรือดำน้ำ 2 ลำในน่านน้ำซีเรีย โดยบ่งชี้ว่า นี่เป็นกำลังรบที่ใหญ่ที่สุดของรัสเซียในพื้นที่นับตั้งแต่เข้าร่วมปฎิบัติการทางทหารในซีเรียเมื่อปี 2015 เพื่อสนับสนุนการปกครองของระบอบบาชาร์ อัล-อัสซาด แลกกับการตั้งฐานทัพถาวรของรัสเซียในแผ่นดินซีเรีย
หนังสือพิมพ์อิซเวสเตีย รายงานอีกว่ารัสเซียมีแผนส่งเรือรบอีกหลายลำไปยังซีเรีย
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศของรัสเซีย เซียเก รยาบคอฟ กล่าวหาว่า กลุ่มนักรบตาห์รีร์ อัช-ชาม “กำลังจะกระทำการยั่วยุอย่างร้ายแรงในอิดลิบโดยใช้อาวุธเคมี” พร้อมกล่าวหาหน่วยข่าวกรองอังกฤษให้การสนับสนุนการจัดฉากนี้
การออกมากล่าวหาของรัสเซียเกิดขึ้นหลังจาก จอห์น โบลตัน ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ กล่าวว่า วอชิงตันจะตอบโต้อย่างรุนแรง หากกองกำลังบาชาร์ อัล-อัสซาด ใช้อาวุธเคมีเพื่อบุกยึดจังหวัดอิดลิบ
รัสเซียและบาชาร์ อัล-อัสซาด อ้างมาตลอดว่าการใช้อาวุธเคมีโจมตีพลเรือนเป็นการจัดฉากของหน่วยอาสาสมัครกู้ภัยอัศวินหมวกขาว แต่ทว่าผลการสืบสวนของคณะกรรมการอิสระของสหประชาชาติชีว่าสารเคมีที่ถูกนำมาใช้ในการโจมตีเป็นสารเคมีที่ผลิตโดยระบอบการปกครองของบาชาร์ อัล-อัสซาด
บาชาร์ อัล-อัสซาด เริ่มเปิดปฎิบัติการทางทหารต่ออิดลิบที่ตุรกีประกาศจะปกป้องประชาชนชาวซีเรียที่นี่ แต่ขณะนี้กองกำลังของบาชาร์สามารถยึดครองพื้นที่ปลายสุดทางตะวันออกเฉียงใต้ของอิดลิบได้แล้ว โดยอิดลิบมีความสำคัญทางยุทธศาสตร์เนื่องจากติดกับจังหวัดลาตาเกีย ซึ่งเป็นที่ตั้งของฐานทัพรัสเซียในซีเรีย และเป็นบ้านของตระกูลอัสซาด
