คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติได้เตือนเมื่อวันศุกร์ที่(21 กันยายน)ผ่านมาในระหว่างการประชุมฉุกเฉินเกี่ยวกับวิกฤติเยเมนว่า ชาวเยเมนกำลังต่อสู้กับความอดอยาก ท่ามกลางประเทศที่เสียหายจากสงครามกลางเมืองที่มีฉนวนเหตุมาจากการก่อกบฎของกลุ่มก่อการร้ายฮูธีย์ ที่อิหร่านหนุนหลัง
การประชุมนี้เกิดขึ้นจากข้อเรียกร้องของ Karen Pierce ทูตอังกฤษประจำสหประชาชาติ
เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ Nikki Haley ซึ่งเป็นประธานในการประชุมกล่าวว่า “พวกเราทุกคนสนับสนุนความพยายามของผู้แทนพิเศษ Martin Griffiths ในการหาแนวทางในการลดความรุนแรงและกลับสู่การเจรจา โศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นในเยเมนเกือบจะเกินจากสิ่งที่รับได้แล้ว”
ด้านผู้แทนถาวรของเยเมนเดินทางไปยังองค์การสหประชาชาติ Ahmed Bin Mubarak กล่าวว่าความทุกข์ทรมานของครอบครัวเยเมนหลายพันครอบครัวในพื้นที่ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของกลุ่มกบฎติดอาวุธฮูธีย์ โดยมีอิหร่านหนุนหลัง ดังข้อเท็จจริงที่ว่าคนในครอบครัวเหล่านี้เหมือนตกอยู่ในเรือนจำของฮูธีย์ โดยทรัพย์สิน 70 เปอร์เซ็นต์ของพวกเขาถูกยึด จากครอบครัวที่ไม่มีรายได้เหล่านี้
Mubarak กล่าวเสริมว่ากลุ่มกบฎนิยมอิหร่านได้ก่อการรัฐประหารต่อรัฐบาลที่ถูกต้องตามกฎหมาย และทำลายสถาบันของรัฐ
ในบริบทเดียวกันทูตคูเวตของสหประชาชาติ Mansour Al-Outaibi บอกว่ากองกำลังติดอาวุธฮูธีย์เป็นผู้รับผิดชอบต่อสถานการณ์ด้านมนุษยธรรมที่ทวีความรุนแรงขึ้นในเยเมนเนื่องจากการขัดขวางกระบวนการทางการเมือง ขัดขวางการเจรจา และละเมิดมติต่างๆ ขององค์กรระหว่างประเทศ
ทูตคูเวตเสริมว่าหัวหน้าเจ้าหน้าที่ด้านมนุษยธรรมของสหประชาชาติ Mark Lowcock รายงานเกี่ยวกับสถานการณ์ด้านมนุษยธรรมที่ย่ำแย่ลงในเยเมน ชี้ให้เห็นถึงสถานการณ์ที่เลวร้าย โดยเฉพาะที่ Hodeidah อันเป็นผลมาจากการกระทำของกลุ่มกบฎฮูธีย์
Mubarak ยืนยันว่ากองกำลังที่ถูกต้องตามกฎหมายของเยเมนซึ่งได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มพันธมิตรอาหรับปิดถนนหลักระหว่าง Sanaa และ Hodeidah โดยประสานกับองค์การสหประชาชาติแจ้งให้ทราบว่ามีถนนทดแทนเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยจาก Hodeidah เชื่อมต่อกับ Sanaa
หัวหน้าหน่วยงานด้านมนุษยธรรมของสหประชาชาติได้เตือนว่าการต่อสู้กับการอดอยากในเยเมน ซึ่งกำลังเผชิญหน้ากับวิกฤติด้านมนุษยธรรมที่เลวร้ายที่สุดของโลกโดยมีประชากร 75% จาก 29 ล้านคนต้องการความช่วยเหลือ
Mark Lowcock เรียกสถานการณ์ “เยือกเย็น” และบอกคณะมนตรีความมั่นคงว่า “วิกฤติทรุดโทรมลงอย่างน่ากลัวในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา”
“ตอนนี้เราอาจกำลังเข้าสู่จุดที่เกินกว่าจะรับได้ ที่ยากต่อการป้องกันการสูญเสียชีวิตจำนวนมากของประชาชนอันเป็นผลมาจากการอดตายทั่วประเทศ” เขากล่าว
“เรากำลังเห็นถึงภาวะที่ชี้ให้เห็นถึงความอดอยากแล้ว เช่นกรณีที่ประชาชนต้องกินใบไม้ประทังชีวิต”
Lowcock กล่าวว่าในช่วงหกเดือนแรกของปีนี้องค์การสหประชาชาติ และกลุ่มมนุษยธรรมให้ความช่วยเหลือแก่ชาวเยเมนมากกว่า 8 ล้านคนที่ไม่ทราบว่าจะมีอาหารในมื้อถัดไป นับเป็นการขยายตัวที่น่าตกใจจากจำนวน 3 ล้านคนในปี 2017
Lowcock ยังได้กล่าวขอบคุณประเทศผู้บริจาคทั้งหมดรวมทั้งซาอุดิอาระเบีย และประเทศอ่าวอาหรับ พร้อมชี้ให้เห็นว่าภัยคุกคามต่อปฏิบัติการบรรเทาทุกข์ในเยเมนคือความตกต่ำลงของสกุลเงิน
เขาเรียกร้องให้คณะมนตรีความมั่นคงเร่งผลักดันให้มีมาตรการในการรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของเยเมน และสนับสนุนในด้านอัตราแลกเปลี่ยน รวมถึงการสร้างสภาพคล่องให้กับธนาคารกลาง และดำเนินการตามภาระผูกพันที่ยาวนานในการจ่ายเงินเดือนแก่ครู, แพทย์, พนักงานสาธารณสุข และพนักงานบริการสาธารณะอื่น ๆ ทั่วประเทศ
Lowcock ยังเรียกร้องให้มีการเปิดท่าเรือนโดยเตือนว่า “เส้นชีวิตผ่านที่การดำเนินการช่วยเหลือกำลังอยู่บนเส้นด้าน”
เขาเรียกร้องให้มีการคุ้มครองพลเรือน, โรงเรียน, โรงพยาบาล และโครงสร้างพื้นฐานพลเรือนอื่น ๆ การจัดตั้งการเชื่อมต่อทางอากาศ สำหรับการอพยพทางการแพทย์ และการเจรจาอย่างจริงจังใน “เส้นทางสู่สันติภาพ”
เขาเน้นย้ำว่ารัฐบาลอาหรับที่สนับสนุนรัฐบาลที่ถูกต้องตามกฎหมายในเยเมนได้ให้ความคุ้มครองแก่เจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์ในเยเมน โดยระบุว่า “ผมอยากจะชี้ให้เห็นว่าการบรรเทาทุกข์ครั้งนี้จะไม่ประสบความสำเร็จ หากไม่มีความพยายามอย่างหนักของรัฐบาลในการจัดพื้นที่ปลอดภัย เราได้รับการบรรยายสรุปจากเจ้าหน้าที่ในกรุงริยาดเกี่ยวกับการบรรเทาทุกข์ และพวกเขาให้ความคุ้มครองแก่เจ้าหน้าที่ด้านมนุษยธรรม”
ขณะที่กลุ่มกบฎติดอาวุธที่อิหร่านให้การหนุนหลังยังได้ยึดรถบรรทุกน้ำมันกว่า 200 คันไว้ในจังหวัด Al-Bayda ของเยเมนเป็นเวลามากกว่าหนึ่งสัปดาห์หลังจากที่เดินทางมาจากเมือง Marib เพื่อขัดขวางไม่ให้เชื้อเพลิงเหล่านี้ถูกส่งถึงจังหวัด Sanaa และพื้นที่พลเรือนที่อยู่ภายใต้การยึดครองของตน ทำขณะนี้ในเยเมนกำลังเผชิญกับการขาดแคลนเชื่้อเพลิงอย่างหนัก
ขณะที่ Abdullah Al-Rabiah ผู้บัญชาการของศูนย์การช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม และศูนย์สงเคราะห์กษัตริย์ซัลมาน (KSRelief) กล่าวว่าศูนย์ฯ ประสบความสำเร็จในการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม และการช่วยเหลือแก่ภูมิภาคต่างๆ ของเยเมน
Al-Rabiah กล่าวในการแถลงข่าวด้านมนุษยธรรมครั้งที่ 2 สำหรับประเทศพันธมิตรที่สนับสนุนความชอบธรรมในการบรรเทาทุกข์ใน Hodeidah ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาที่กรุงริยาดซาอุดีอาระเบียโดยมี Sultan Al-Shamsi ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อการพัฒนาของ UAE เข้าร่วม ชี้ว่าการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในเยเมนต้องเผชิญกับการปล้นสะดม และการทำลายล้างโดยกองกำลังติดอาวุธฮูธีย์ ซึ่งจากสถิติแสดงให้เห็นว่าในระหว่างปี 2015-2017 เรือบรรเทาทุกข์ 65 ลำ 124 ขบวนบรรเทาทุกข์ และรถบรรทุกข์ 628 คัน ถูกดักปล้นระหว่างทางจากกลุ่มติดอาวุธฮูธีย์
เขากล่าวอีกว่าเรือ 19 ลำที่บรรทุกน้ำมัน 200,000 ตันได้รับอนุญาตจากรัฐบาลเพื่อเข้าสู่ท่าเรือ Hodeidah แต่ถูกดักปล้อนโดยกลุ่มกบฎฮูธีย์โดยยึดไว้นานกว่า 26 วัน
พร้อมกล่าวอีกว่าเราทุกคนสนับสนุนความพยายามของผู้แทนพิเศษ Martin Griffiths เพื่อหาแนวทางในการลดความรุนแรง และกลับสู่การเจรจา โศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นในเยเมนนั้นเป็นสิ่งที่รับไม่ได้
ที่มา SAUDIGAZETTE