สำนักงานบรรเทาภัยพิบัติของสหประชาชาติ (UN) คาดว่า แผ่นดินไหวสุลาวสีเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว ทำให้มีผู้ต้องการความช่วยเหลือเร่งด่วนมากถึง 191,000 คน โดยในจำนวนนี้มีเด็กหลายหมื่นคน หลังจากทางการอินโดนีเซียแจ้งยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มสูงขึ้นเป็น 1,374 คนแล้ว และยังมีอีก 113 คนที่ยังสูญหาย และว่า ยังคงมีศพติดอยู่ใต้กองซากปรักหักพังซึ่งยังไม่ทราบจำนวน ด้านประธานาธิบดีโจโก วิโดโด ลงพื้นที่ประสบภัยรอบ 2 ในรอบ 4 วัน
สหประชาชาติคาดว่า มีชุมชนไม่ต่ำกว่า 934 แห่งได้รับความเดือดร้อนจากแผ่นดินไหวหลายระลอกและสึนามิที่เกิดขึ้นเมื่อวันศุกร์(28 กันยายน) มีผู้ไร้ที่อยู่อาศัยราว 61,867 คน บ้านเรือนราว 66,000 หลังถูกทำลายหรือได้รับความเสียหาย
สิ่งสำคัญขณะนี้คือเร่งจัดส่งอาหารและสิ่งของจำเป็นให้แก่ผู้ประสบภัย หลังจากนั้นต้องใช้เวลาซ่อมแซมโรงเรียนที่พังเสียหายกว่า 600 โรง บ้านเรือนอีกหลายหมื่นหลัง
UN ประเมินว่า ต้องจัดส่งน้ำสะอาดวันละ 571,000 ลิตร หรือเท่ากับน้ำที่จะเติมในสระว่ายน้ำขนาดมาตรฐานโอลิมปิกหนึ่งสระทุก 4 วัน ที่พักชั่วคราวขนาด 659,000 ตารางเมตร หรือหนึ่งเท่าครึ่งของจัตุรัสเทียนอันเหมินในกรุงปักกิ่งของจีน และอาหารให้พลังงานวันละ 401 ล้านแคลอรี หรือเท่ากับบิกแมค 1.8 ล้านชิ้น
กองทัพอินโดนีเซียเป็นแกนนำในปฏิบัติการกู้ภัยครั้งนี้ โดยนำเครื่องบิน C130 ลำเลียงอาหาร และอพยพผู้ประสบภัย มีชาวต่างชาติรวมอยู่ด้วย 122 คน เป็นชาวไทย 30 คน และชาวเยอรมัน 20 คน
รัฐบาลส่งทหาร 3,169 นาย ตำรวจ 2,033 นาย ออกช่วยเหลือประชาชนควบคู่ไปกับการรักษาความสงบเรียบร้อย รวมทั้งจับกุมผู้ปล้นสะดมขโมยข้าวของร้านค้าได้แล้วอย่างน้อย 45 ราย
ขณะที่องค์กรระหว่างประเทศ และประเทศต่าง ๆ เสนอจัดส่งความช่วยเหลือแล้ว 26 ประเทศ
ด้านประธานาธิบดีโจโก วิโดโดของอินโดนีเซียเดินทางเยือนพื้นที่ประสบภัยเป็นครั้งที่สอง โดยมีการพูดคุยกับบรรดาเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่โรงแรมปาลูที่พังถล่มลงมา นายวิโดโดกล่าวว่า กลับมาในครั้งนี้เขาเห็นเครื่องมือต่างๆ ถูกส่งมาถึงแล้ว และเชื้อเพลิงก็ถูกส่งมาถึงบางส่วน และว่า เขาได้ขอให้เปิดศูนย์กลางทางเศรษฐกิจอีกครั้งเพื่อให้ประชาชนสามารถกลับมาใช้ชีวิตตามปกติ ขณะที่การช่วยเหลือยังคงดำเนินต่อไป รวมถึงการฟื้นฟูและซ่อมแซมส่วนที่เสียหายต่างๆ มีรายงานว่า เครื่องบินลำเลียงอย่างน้อย 7 ลำมาถึงสนามบินปาลูเมื่อเช้าวันนี้ เพื่อนำสิ่งของบรรเทาทุกข์มาช่วยเหลือผู้ประสบภัย
