อัตราเงินเฟ้อในตุรกีเพิ่มขึ้นเกือบ 25 เปอร์เซ็นต์ในเดือนกันยายนจากการเปิดเผยอย่างเป็นทางการในวันพุธ (3 ตุลาคม) แตะระดับสูงสุดในรอบ 15 ปี และเน้นย้ำถึงผลกระทบจากวิกฤตการเงินต่อเศรษฐกิจ และผู้บริโภค
ค่าเงินลีราของตุรกีอ่อนลงราว 40 เปอร์เซ็นต์ในปีนี้เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการควบคุมนโยบายการเงินของประธานาธิบดี รอยับ ตอยยิบ ออโดกัน และข้อขัดแย้งทางการทูตกับสหรัฐฯ การเทขายทำให้ราคาสินค้าทุกอย่างตั้งแต่อาหารไปจนถึงเชื้อเพลิงมีราคาเพิ่มขึ้น และสั่นคลอนความเชื่อมั่นของนักลงทุนในสิ่งที่ครั้งหนึ่งเคยถูกมองว่าเป็นตลาดเกิดใหม่ที่ร้อนแรงที่สุด
ค่าเงินลีราอ่อนลงทันทีหลังจากการเผยแพร่ข้อมูลดังกล่าวซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์มาก ค่าเงินลีราอยู่ที่ 6.0633 ต่อดอลลาร์เมื่อเวลา 14.17 น. ตามเวลาประเทศไทย อัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น 24 เปอร์เซ็นต์ในเดือนกันยายนจากปีที่แล้ว ตามข้อมูลจากสถาบันสถิติตุรกี
อัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น 6.3 เปอร์เซ็นต์จากเดือนที่แล้ว สูงกว่าค่าเฉลี่ย 3.6 เปอร์เซ็นต์ในการสำรวจนักเศรษฐศาสตร์ 15 คนของรอยเตอร์
ราคาอาหารและเครื่องดื่มปลอดแอลกอฮอล์ ส่วนสำคัญในอัตราเงินเฟ้อ ราคาผู้บริโภค เพิ่มขึ้น 6.4 เปอร์เซ็นต์จากเดือนที่แล้ว ราคาอุปกรณ์ตกแต่งบ้าน และครัวเรือนเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบเดือนที่ 11.41 เปอร์เซ็นต์ ตามมาด้วยราคาค่าโดยสาร 9.15 เปอร์เซ็นต์
หลังจากอัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น 17.9 เปอร์เซ็นต์ในเดือนสิงหาคม ธนาคารกลางตุรกีได้ส่งสัญญาณว่าจะใช้มาตรการยับยั้งความเสี่ยงสำคัญที่จะเกิดต่อเสถียรภาพทางด้านราคา
หลังจากนั้น ธนาคารกลางได้ปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยพื้นฐานเป็น 6.25 เปอร์เซ็นต์ในวันที่ 12 กันยายน ตัวเลขสูงที่สุดในการปกครองนาน 15 ปีของประธานาธิบดี ออร์โดกัน มีส่วนช่วยพยุงค่าเงินลีราในระดับหนึ่ง
ราคาผู้ผลิตเพิ่มขึ้น 10.88 เปอร์เซ็นต์ในเดือนกันยายนเทียบกับเดือนที่แล้วหรือ 46.15 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
