องค์การสหประชาชาติ (UN) จะส่งเครื่องบินเข้าไปช่วยอพยพสมาชิกกบฎชีอะห์ฮูธีย์จำนวน 50 คนที่ได้รับบาดเจ็บออกจากเมืองหลวงเยเมนไปรักษาตัวที่กรุงมัสกัตของโอมานในวันจันทร์ (3 ธันวาคม) ตามข้อมูลจากกลุ่มพันธมิตรซาอุดีอาระเบีย โดยเป็นหนึ่งในมาตรการ ‘สร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ’ ก่อนที่การเจรจาสันติภาพกับฝ่ายพันธมิตรซาอุดีอาระเบียจะเปิดฉากขึ้นที่สวีเดน
การอพยพโดยเครื่องบินเช่าเหมาลำของสหประชาชาตินับเป็นความคืบหน้าล่าสุดของกระบวนการเจรจาเพื่อยุติสงคราม 4 ปีที่ทำให้เยเมนต้องเผชิญวิกฤตความอดอยากครั้งรุนแรงหลังกลุ่มกบฎชีอะห์ฮูธีย์ที่มีอิหร่านหนุนหลังก่อกบฎบุกยึดเมืองหลวงของเยเมน
สมาชิกนักรบกบฏฮูธีย์ที่บาดเจ็บเป็นปมปัญหาใหญ่ที่ทำให้การพูดคุยสันติภาพล่มเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา หลังกลุ่มกบฎชีอะห์กลุ่มนี้ปฎิเสธการเจรจา
“เครื่องบินเช่าเหมาลำของ UN จะไปถึงสนามบินนานาชาติซานาในวันจันทร์ (3) เพื่ออพยพสมาชิกกลุ่มกบฎที่บาดเจ็บ 50 คนไปยังกรุงมัสกัต โดยมีแพทย์ชาวเยเมน 3 คน และแพทย์ UN อีก 1 คนร่วมเดินทางไปด้วย” ตามการระบุของ ตุรกี อัล-มาลิกี โฆษกกลุ่มพันธมิตรซาอุฯ ในถ้อยแถลงซึ่งเผยแพร่ทางสำนักข่าวซาอุดีเพรสส์เอเจนซี (SPA)
ทั้งนี้ ฝ่ายพันธมิตรพร้อมที่จะอำนวยความสะดวกให้แก่การอพยพทางการแพทย์ครั้งนี้ตามคำขอของ มาร์ติน กริฟฟิธส์ ผู้แทนสหประชาชาติ “ด้วยเหตุผลด้านมนุษยธรรม” และเพื่อเป็นการ “สร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ”
การเจรจาสันติภาพซึ่งมี UN เป็นคนกลางได้รับการสนับสนุนรัฐบาลซาอุฯ แต่กลุ่มกบฎฮูธีย์ไม่ยอมรับการเจรจาก่อนหน้านี้ แต่ล่าสุดยอมประกาศยุติการยิงขีปนาวุธเข้าถล่มซาอุดิอาระเบีย เพื่อเดินหน้าสู่การเจรจาและคาดว่าการเจรจาน่าจะเกิดขึ้นที่สวีเดนภายในสัปดาห์นี้
อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ เคยออกมากล่าวเป็นนัยๆ ว่าการเจรจาอาจล่าช้ากว่าช่วงต้นเดือนธันวาคม แต่หวังว่าคงจะเริ่มขึ้นได้ “ภายในปีนี้”
ก่อนหน้านี้กบฏฮูธีย์ที่มีอิหร่านอยู่เบื้องหลังปฏิเสธที่จะส่งผู้แทนไปเจนีวาเพื่อเข้าร่วมการเจรจาสันติภาพร่วมกับ UN เมื่อเดือน กันยายน โดยอ้างว่า UN ไม่รับรองว่าพวกเขาจะกลับไปยังกรุงซานาได้อย่างปลอดภัยหรือไม่ นอกจากนี้ พวกเขายังกล่าวหา UN ว่าไม่ช่วยอพยพนักรบของตนที่บาดเจ็บไปรักษาตัวยังโอมาน
ในช่วงไม่กี่วันมานี้ กริฟฟิธส์ ได้ร่วมหารือกับผู้แทนของคู่ขัดแย้งทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อปูทางไปสู่การเปิดเจรจาสันติภาพครั้งใหม่ที่สวีเดน
มาร์ก โลว์ค็อก ผู้ช่วยเลขาธิการผู้ประสานงานด้านมนุษยธรรมและการบรรเทาทุกข์ฉุกเฉินแห่งสหประชาชาติซึ่งได้เดินทางไปเยือนกรุงซานา ออกมาเตือนเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า เยเมนกำลัง “เสี่ยงเผชิญหายนะครั้งใหญ่”
คำเตือนของ โลว์ค็อก มีขึ้นหลังกลุ่มกบฎที่ประกาศหยุดยิงไปก่อนหน้านี้ ได้กลับมาเปิดฉากโจมตีกองกำลังของรัฐบาลเยเมนจนเกิดการสู้รบระลอกใหม่ขึ้นที่เมืองท่า Hodeida ริมทะเลแดง ซึ่งถือเป็นเส้นทางหลักในการส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมที่รัฐบาลเยเมนพยายามยึดคืนเมืองท่าแห่งนี้จากกลุ่มกบฎเพื่อเปิดทางให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าสู่เยเมนได้ หลังมีเรือบรรเทาทุกข์จำนวนมากจอดติดค้างอยู่ที่ท่าเรือโดยไม่สามารถนำความช่วยเหลือเข้าสู่เยเมนได้ ขณะที่ลูกเรือชาวต่างชาติหลายรายถูกกลุ่มกบฎจับตัวไว้