หลังจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงเปิดเผยท่าทีที่เปลี่ยนไปของสหรัฐฯ ในการยอมรับการปกครองของบาชาร์ อัล-อัสซาด ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ก็ประกาศถอนทหารออกจากซีเรียทันที อ้างรบชนะกลุ่มดาอิชแล้วหลังทำสงครามมายาวนานตั้งแต่มีนาคม 2554
ประธานาธิบดีทรัมป์โพสต์คลิปในทวิตเตอร์เมื่อวันพุธตามเวลาสหรัฐว่า มีชัยชนะเหนือดาอิชแล้ว และถึงเวลาที่ทหารอเมริกันจะได้กลับบ้าน
เจ้าหน้าที่สหรัฐเผยว่า ประธานาธิบดีตัดสินใจเรื่องนี้เมื่อวันอังคาร และจะถอนทหารทั้งหมดออกจากซีเรีย
ปัจจุบันมีทหารอเมริกันอยู่ในซีเรียราว 2,500 นาย ส่วนใหญ่อยู่ทางตอนเหนือของซีเรีย ทำหน้าที่ฝึกอบรมและให้คำแนะนำกองกำลังติดอาวุธชาวเคิร์ด
โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เผยว่า ได้เริ่มกระบวนการนำทหารกลับบ้านแล้ว
ขณะที่โฆษกทำเนียบขาวกล่าวว่า กองกำลังพันธมิตรนานาชาตินำโดยสหรัฐจะยังสู้รบกับกลุ่มไอเอสในซีเรียต่อไป
สมาชิกสภาสหรัฐพากันตำหนิการตัดสินใจของทรัมป์ว่าจะเปิดทางให้ตุรกีรุกไล่กลุ่มชาวเคิร์ดที่สหรัฐสนับสนุน
สว.ลินซีย์ แกรแฮม พรรครีพับลิกันที่เป็นพันธมิตรของทรัมป์ตำหนิว่า เป็นการตัดสินใจที่ไม่ฉลาดและทำให้ชาวเคิร์ดเสี่ยงอันตราย
เช่นเดียวกับ สว.แจ็ค รีด พรรคเดโมแครตที่กล่าวว่าเป็นการทรยศชาวเคิร์ด และยิ่งแสดงให้เห็นว่าทรัมป์ไม่เหมาะที่จะเป็นผู้นำโลก
หน่วยปกป้องของประชาชนชาวเคิร์ด (YPG) เป็นกำลังพลส่วนใหญ่ในกองกำลังประชาธิปไตยซีเรีย ซึ่งเป็นพันธมิตรที่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐในการต่อกับสู้กับดาอิชในซีเรีย แต่ตุรกีชี้ว่ากลุ่มนี้เป็นกลุ่มก่อการร้าย
คำสั่งถอนทหารออกจากซีเรียมีขึ้นหลังจากที่ นายเจมส์ เจฟฟรีย์ ผู้แทนพิเศษสหรัฐด้านซีเรียกล่าวว่า แถลงในการประชุมแอตแลนติก เคาน์ซิลที่กรุงวอชิงตันว่า สหรัฐต้องการให้รัฐบาลซีเรียเปลี่ยนแปลงทั้งระบบ พร้อมยอมรับว่า สหรัฐจะไม่หาทางโค่นประธานาธิบดีบาชาร์ อัลอัสซาดออกจากตำแหน่งอีกแล้ว