ทีมนักประดาน้ำของอินโดนีเซียค้นพบอุปกรณ์บันทึกเสียงในห้องนักบิน (CVR) หรือกล่องดำใบที่ 2 ของเครื่องบินไลอ้อนแอร์ซึ่งประสบอุบัติเหตุตกทะเลนอกชายฝั่งกรุงจาการ์ตาเมื่อ 2 เดือนก่อนแล้ววันจันทร์ (14 มกราคม) และจะเตรียมนำไปดาวน์โหลดข้อมูลเพื่อสืบหาต้นตอของโศกนาฏกรรมที่คร่าชีวิตลูกเรือและผู้โดยสารไปทั้งหมด 189 ราย
อุบัติเหตุดังกล่าวถือเป็นครั้งแรกของโลกที่เกิดขึ้นกับเครื่องบินรุ่น 737 MAX ซึ่งเป็นเวอร์ชันอัปเกรดที่เพิ่งจะเริ่มนำมาให้บริการเมื่อปีที่แล้ว และเจ้าหน้าที่เชื่อว่าข้อมูลที่ได้จากกล่อง CVR จะช่วยให้พนักงานสอบสวนทราบว่านักบินรับมือกับเหตุฉุกเฉินที่เกิดขึ้นอย่างไรก่อนที่เครื่องบินจะร่วงลงสู่ทะเล
“เรามีห้องปฏิบัติการและบุคลากรที่สามารถตรวจสอบมันได้” ฮาร์โย สัตมิโก รองประธานคณะกรรมาธิการความปลอดภัยขนส่งแห่งชาติอินโดนีเซีย (KNKT) ให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ พร้อมระบุว่าการดาวน์โหลด วิเคราะห์ข้อมูล และถอดเนื้อหาของกล่องบันทึกข้อมูลการบินโดยทั่วไปจะใช้เวลาประมาณ 3 เดือน
เที่ยวบิน JT 610 ขาดการติดต่อกับหอควบคุมการบิน หลังออกเดินทางจากกรุงจาการ์ตาเพื่อมุ่งหน้าไปยังเมืองปังกัลปีนัง (Pangkal Pinang) ในจังหวัดบังกาเบอลิตุงได้เพียง 13 นาที เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม ปีที่แล้ว
รายงานการสืบสวนเบื้องต้นของ KNKT พุ่งเป้าไปที่ประวัติการซ่อมบำรุงและการฝึกฝนของสายการบิน รวมไปถึงการตอบสนองของระบบป้องกันการสูญเสียแรงยก (anti-stall system) ในเครื่องบินโบอิ้ง และอุปกรณ์เซ็นเซอร์ที่เพิ่งจะถูกเปลี่ยนใหม่ก่อนเกิดอุบัติเหตุไม่นานนัก แต่ก็ไม่ได้ฟันธงว่าอะไรคือสาเหตุที่ทำให้เครื่องบินตก
กลุ่มญาติผู้เสียชีวิตเรียกร้องให้ KNKT “เปิดเผยข้อมูลทุกอย่างที่ถูกบันทึกไว้” และทำงานอย่างเป็นอิสระ
นาวาโท อากุง นูโกรโฮ จากกองทัพเรืออินโดนีเซียเผยกับรอยเตอร์ว่า ทีมค้นหาสามารถตรวจจับ ‘สัญญาณปิง’ จากกล่องดำใบที่ 2 ได้ตั้งแต่เมื่อหลายวันก่อน กระทั่งไปพบมันจมอยู่ใต้ดินโคลนที่ความลึกประมาณ 30 เมตร
“เรายังไม่ทราบว่ามันเสียหายหรือไม่ แต่ดูจากภายนอกก็มีรอยขีดข่วนอยู่พอสมควร” กูโกรโฮ กล่าว
เจ้าหน้าที่ KNKT ได้เผยแพร่ภาพอุปกรณ์ CVR สีส้มสดซึ่งนักประดาน้ำนำกลับขึ้นมาได้ โดยไม่มีร่องรอยบุบสลายมากนัก
นูโกรโฮ ระบุว่า จุดที่พบ CVR อยู่ไม่ไกลจากบริเวณที่ทีมค้นหาเคยเจอชิ้นส่วนศพผู้โดยสาร และห่างออกมาเพียง 50 เมตรจากจุดที่กล่องบันทึกข้อมูลการบิน (FDR) ถูกพบหลังเครื่องบินตก 3 วัน
พนักงานสอบสวนได้ขอให้กองทัพเรืออิเหนาส่งเรือมาช่วยค้นหากล่อง CVR เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังภารกิจค้นหานาน 10 วันโดยไลอ้อนแอร์ที่ใช้งบประมาณไปถึง 38,000 ล้านรูเปียะห์ไม่ประสบผลสำเร็จ
ข้อมูลจากบริษัท L3 Technologies ซึ่งเป็นผู้ผลิตกล่องดำระบุว่า อุปกรณ์ตัวนี้จะปล่อยสัญญาณปิงออกมาเป็นเวลา 90 วันหลังเครื่องตกกระแทกผิวน้ำ และนั่นหมายความว่าพนักงานสอบสวนจะยิ่งเผชิญอุปสรรคในการค้นหาหากผ่านพ้นวันที่ 27 ม.ค. ไปแล้ว
อุบัติเหตุครั้งนี้ทำให้ไลอ้อนแอร์ถูกเพ่งเล็งเรื่องมาตรฐานการซ่อมบำรุงและแนวทางปฏิบัติของนักบิน ขณะที่ญาติผู้โดยสารก็ได้ยื่นฟ้องเอาผิดกับโบอิ้งแล้วอย่างน้อย 3 คดี