หมอแดนใต้เตือน “อย่าเดินตกหลุมสงครามความรู้สึก”

นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจะนะ จ.สงขลา โพสต์เฟซบุ๊กเตือนสังคมระวัง “อย่าเดินตกหลุม สงครามความรู้สึก” จากเหตุยิงพระสงฆ์มรณภาพที่ อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส

เหตุยิงพระสงฆ์มรณภาพ 2 รูปและบาดเจ็บอีก 2 รูป ที่วัดรัตนานุภาพ สุไหงปาดี สร้างความสะเทือนใจกับความรู้สึกของผมอย่างยิ่งเมื่อผมทราบข่าว

ก่อนหน้านี้ 1 สัปดาห์ มีเหตุยิงโต๊ะอิหม่ามที่รือเสาะเสียชีวิตเช่นกัน แต่ผมกลับไม่ได้มีความรู้สึกเท่า ทำให้ผมจึงเข้าใจได้ทันทีว่า นี่คือ “สงครามความรู้สึก” อย่างที่ ดร.ศรีสมภพ จิตร์ภิรมย์ศรี แห่ง มอ.ปัตตานี เคยตั้งข้อสังเกตไว้เมื่อสิบปีก่อน

การยิงพระสงฆ์นั้น ถ้าถามว่าฝ่ายขบวนการต้องการอะไร ทำไปทำไม ฝ่ายขบวนการเขาไม่ได้ยิงเพื่อมุ่งเป้าสร้างความหวาดกลัวกับคนพุทธเท่านั้นหรอก ความหวาดกลัวที่สามจังหวัดนั้นมากจนเป็นความเคยชินที่ยอมรับสภาพกันไปแล้ว แต่แท้จริงเป็นการสร้างเงื่อนไขให้เกิดความแตกแยกทางความรู้สึกระหว่างพี่น้องพุทธและมุสลิม และหวังผลในระดับชาติ

พี่น้องในพื้นที่สามจังหวัดนั้นเขาได้ปรับตัวอย่างมากเข้าสู่โหมดสมานฉันท์อยู่ร่วมกันสองวัฒนธรรมอย่างลงตัวท่ามกลางควันปืนมาหลายปีแล้ว อันนี้ไม่น่าเป็นห่วงมาก การยิงพระสงฆ์คงไม่ได้ทำให้เปลวสงครามความรู้สึกของคนชายแดนใต้กระพือมากนัก แต่ที่น่าเป็นห่วงคือคนไกล คนที่อยู่นอกพื้นที่สามจังหวัดต่างหาก

ความรู้สึกอคติและแบ่งแยกของพี่น้องพุทธต่อพี่น้องมุสลิม คือรากฐานอันสำคัญยิ่งของการแบ่งแยกดินแดน การเหมารวมและสบถด่าอย่างไม่แยกแยะคือเชื้อไฟอันดีที่ฝ่ายก่อเหตุต้องการ ความรู้สึกที่ไม่ดี ที่แบ่งพวก ที่ชิงชังระหว่างพุทธมุสลิมคือเป้าหมายของการยิงพระสงฆ์ในทุกครั้ง เราจึงต้องไม่เดินตกหลุมที่ถูกขุดเอาไว้

พี่น้องมุสลิมร้อยละ 99 เป็นคนดี มีวิถีชีวิตที่ดิ้นรนจากสภาพเศรษฐกิจสังคมที่บีบรัด มีความเคร่งครัดในวิถีศาสนาที่เขาศรัทธา ใจดีมีรอยยิ้ม มีน้ำใจ รักสันติ มีเพียงส่วนน้อยมากเท่านั้นที่สร้างสถานการณ์

คนไทยจึงต้องไม่เดินตกหลุม เพิ่มเชื้อไฟสงครามความรู้สึก กรณีเหตุยิงพระสงฆ์ที่สุไหงปาดี

ความคิดเห็น

comments