หน่วยเฉพาะกิจสงขลา แจงกรณีอาสาสมัครรักษาดินแดนอำเภอสะบ้าย้อย เมาแล้วเข้าไปก่อกวนในมัสยิดดารุลนาอีม ยันไม่ได้เข้าไปเผามัสยิดแต่อย่างใด ระบุเตรียมดำเนินการตามกฎหมาย และวินัยหากพบกระทำผิดจริง
MGR Online รายงานความคืบหน้าเหตุอาสาสมัครรักษาดินแดนอำเภอสะบ้าย้อย จ.สงขลา ได้ก่อเหตุในลักษณะก่อกวน พูดจาไม่สุภาพ ที่มัสยิดดารุลนาอีม (ช่างนุ้ย) หมู่ 1 ต.สะบ้าย้อย อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา เมื่อเวลา 17.00 น. วันพุธ (23 มกราคม) โดยอาสมัครดังกล่าวได้เดินเข้ามาภายในมัสยิดดังกล่าว ขณะที่มีพี่น้องมุสลิมกำลังประกอบพิธีละหมาด ทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่าเข้ามาเพื่อวางเพลิงเผามัสยิด จึงเกิดความไม่พอใจต่อชาวบ้านในชุมชนดังกล่าวเป็นอย่างมาก จึงกลายเป็นกระแสข่าวที่ไม่ดีในสังคมพี่น้องมุสลิม
ล่าสุด วันพฤหัสบดี (24 มกราคม) ที่หน่วยเฉพาะกิจสงขลา ต.ท่าม่วง อ.เทพา จ.สงขลา พล.ต.ต.ไพโรจน์ ทานธรรม ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจสงขลา ได้ออกมาชี้แจงเหตุกระแสข่าว กรณีอาสาสมัครรักษาดินแดน เข้าไปบริเวณมัสยิดดารุลนาอีม ในอาการมึนเมา และพูดคุยใช้ถ้อยคำไม่สุภาพ
ทางหน่วยเฉพาะกิจสงขลา ไม่ได้นิ่งนอนใจ และได้รีบสั่งการลงพื้นที่ให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริง ร่วมกับฝ่ายปกครองอำเภอสะบ้าย้อย สถานีตำรวจภูธรสะบ้าย้อย และประชาชนในบริเวณจุดเกิดเหตุทันที โดยมีข้อเท็จจริงดังนี้
“เมื่อคืนวันจันทร์ที่ 21 มกราคม 2562 เวลาประมาณ 20.00 น. นายหมู่เอกสมควร บุญธรรมโม สมาชิกอาสารักษาดินแดนอำเภอสะบ้าย้อย ได้เข้าไปในมัสยิดดารุลนาอีม และพบกับพี่น้องมุสลิม 4 คน กำลังปฏิบัติศาสนกิจทางศาสนา นายหมู่เอกสมควร ได้เข้าไปพูดคุย โดยใช้ถ้อยคำไม่สุภาพ และกลับออกมา โดยมีพี่น้องมุสลิมที่กำลังปฏิบัติศาสนกิจว่าอยู่ในอาการมึนเมา แต่ไม่ได้กระทำความรุนแรงแต่อย่างใด และไม่ได้มีความประสงค์เพื่อเข้าไปวางเพลิงที่มัสยิดดังกล่าว ตามที่เป็นกระแสข่าวแต่อย่างใด”
จึงขอชี้แจงถึงข้อเท็จจริงให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับทราบ เพื่อสร้างความเข้าใจร่วมกัน ไม่ให้ตกเป็นเครื่องมือ และสร้างความแตกแยกให้เกิดขึ้นในสังคมต่อไป
ด้าน พ.ต.อ.กองทัพ เสนาทิพย์ รองผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรสะบ้าย้อย กล่าวว่า กรณีนายหมู่เอกสมควร บุญธรรมโม ในส่วนของข้อเท็จจริงที่ได้ทำการตรวจสอบเบื้องต้นร่วมกับทางฝ่ายปกครองอำเภอสะบ้าย้อย ข้อเท็จจริงที่ได้เข้าข่ายเป็นความผิดฐานก่อให้เกิดความวุ่นวายในที่ประชุมของศาสนิกชนเวลาประชุมกัน หรือเวลากระทำพิธีกรรมทางศาสนาที่ชอบโดยกฎหมาย เป็นความผิดทางอาญา คุณธรรมของกฎหมายข้อนี้ คุ้มครองศาสนาทุกศาสนา คุ้มครองศาสนสถานทุกศาสนา คุ้มครองพิธีกรรมทุกศาสนา ไม่ว่าใครก็ตามที่เข้าไปทำให้เกิดความวุ่นวายในการประกอบพิธีกรรมใดทางศาสนาใดๆ ย่อมต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ขณะที่ นายเจริญศักดิ์ สงสุวรรณ ปลัดอำเภอสะบ้าย้อย กล่าวว่า ในฐานะผู้บังคับบัญชาของ นายหมู่เอกสมควร บุญธรรมโม จากประวัติการทำงานมา 10 ปี ไม่เคยกระทำผิดทางวินัย มีนิสัยเงียบขรึม ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่เป็นอย่างดี และทราบว่าในวันดังกล่าวได้ขออนุญาตหัวหน้าชุดออกไปทำธุระ อย่างไรก็ตาม ทางอำเภอสะบ้าย้อย จะรวบรวมข้อเท็จจริงจากตำรวจ และตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่าเป็นการกระทำผิดทางวินัย ซึ่งจะเร่งดำเนินการหาข้อเท็จจริง และดำเนินการลงโทษตามการกระทำต่อไป
ส่วน นายดาโอ๊ะ โอ๊ะ ผู้นำศาสนาในพื้นที่ กล่าวว่า สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้น โดยการเข้ามาของสมาชิกอาสารักษาดินแดนคนดังกล่าว เข้ามาแบบบุคคลแปลกหน้า อยู่ในอาการมึนเมา พูดจาใช้ถ้อยคำไม่สุภาพ ไม่ให้เกียรติสถานที่ ซึ่งเป็นสถานที่ปฏิบัติศาสนกิจของพี่น้องมุสลิม ส่งผลให้พี่น้องประชาชนในบริเวณดังกล่าวเกิดความหวาดระแวง ว่าจะมีการก่อกวนสร้างสถานการณ์ในพื้นที่ ซึ่งจากการพูดคุย และทางเจ้าหน้าที่เข้ามาทำความเข้าใจชี้แจงกับพี่น้องประชาชน ทางผู้นำศาสนาและประชาชนทุกคน พร้อมให้อภัยเพราะไม่อยากให้เกิดความแตกแยก เพราะทั้งพุทธและมุสลิมอยู่ร่วมกันมาช้านาน แม้จะแตกต่างในเรื่องของการปฏิบัติศาสนกิจ ขณะนี้ชาวบ้าน และผู้นำศาสนามีความพอใจที่ทางเจ้าหน้าที่ออกมารับผิดชอบ และดำเนินการต่อสมาชิกอาสารักษาดินแดนคนดังกล่าว