กองทัพอินเดียต้องสูญเสียกำลังพลอีกครั้งจากการยิงปะทะกับกลุ่มนักรบในแคชเมียร์ ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 7 รายวันจันทร์ (18 กุมภาพันธ์) เพียง 4 วันหลังเกิดเหตุโจมตีขบวนรถบัสซึ่งคร่าชีวิตสารวัตรทหารอินเดียไป 41 ศพ
การยิงปะทะยังดำเนินไปอย่างต่อเนื่องนานหลายชั่วโมง หลังจากแหล่งข่าวตำรวจและทหารออกมายืนยันว่า มีทหาร 4 นาย, กลุ่มติดอาวุธ 2 คน และพลเรือนอีก 1 คนเสียชีวิตที่เขตปุลวามา (Pulwama) ซึ่งห่างจากเมืองศรีนครไปทางใต้ราว 40 กิโลเมตร และเป็นจุดที่ขบวนรถบัสถูกโจมตีเมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว (14)
กองทัพอินเดียระบุว่า หนึ่งในผู้เสียชีวิตเป็นทหารยศพันตรี และยังมีทหารอีก 1 นายกับพลเรือนอีก 1 คนได้รับบาดเจ็บสาหัส
“เวลานี้ยังมีการยิงปะทะกันอยู่” พันเอก ราเกช กาเลีย โฆษกกองทัพในแคชเมียร์ ให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพี
ทหารหลายร้อยนายได้บุกเข้าไปตรวจค้นหมู่บ้านหลายแห่ง และยิงกระสุนเข้าใส่บ้านที่เพียงต้องสงสัยว่าจะมีกลุ่มติดอาวุธหลบซ่อนอยู่ จนเกิดการยิงต่อสู้กันขึ้นที่หมู่บ้านปิงลัน (Pinglan)
ตำรวจคาดว่ากลุ่มติดอาวุธบางส่วนน่าจะหลบหนีไปแล้ว ขณะที่กองกำลังความมั่นคงยังตรึงกำลังปิดล้อมหมู่บ้านอื่นๆ ไว้ เพื่อตามล่าตัวพวกเขาให้พบ
กลุ่มติดอาวุธ จาอิช-อี-โมฮัมเหม็ด (JeM) ในปากีสถานได้ประกาศอ้างความรับผิดชอบกรณีคนร้ายขับรถตู้ขนระเบิดหนัก 350 กิโลกรัมพุ่งเข้าชนขบวนรถบัสที่กำลังขนส่งหน่วยความมั่นคงอินเดีย ซึ่งนับเป็นเหตุโจมตีในแคชเมียร์ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในรอบ 30 ปี
แคชเมียร์ถูกแบ่งแยกการปกครองโดยอินเดียและปากีสถานตั้งแต่ได้รับเอกราชจากอังกฤษในปี 1947 และทั้ง 2 ชาติก็เคยทำสงครามกันมาแล้ว 2 ครั้งเมื่อชาวแคชเมียร์ต้องการอยู่ภายใต้การปกครองของปากีสถาน แต่กลับถูกอังกฤษยกให้พวกเขาอยู่ภายใต้การปกครองของอินเดีย
รัฐบาลอินเดียกล่าวหาปากีสถานว่าให้ที่พักพิงแก่กลุ่ม JeM พร้อมประกาศจะแก้แค้นให้ทหารกว่า 40 นายที่ตายไป
หลังเกิดเหตุโจมตีไม่กี่ชั่วโมง รัฐบาลอินเดียได้สั่งระงับเอกสิทธิ์ทางการค้าที่เคยให้แก่ปากีสถาน และเพิกถอนการคุ้มครองผู้นำนักรบแคชเมียร์ 4 คน
ทางการปากีสถานยืนยันว่าไม่มีส่วนรู้เห็นกับเหตุโจมตีที่เกิดขึ้น และยืนยันว่ากลุ่ม JeM ถูกขึ้นบัญชีเป็น “องค์กรก่อการร้าย”
การตายของทหารกว่า 40 นายทำให้ชาวอินเดียทั่วประเทศลุกขึ้นมาเดินขบวนต่อต้านปากีสถาน แม้แต่สื่อมวลชนก็เรียกร้องให้กองทัพใช้ปฏิบัติการทางทหารตอบโต้ หลังรัฐบาลอินเดียกล่าวหาโดยไม่แสดงหลักฐานว่าปากีสถานอยู่เบื้องหลังเหตุดังกล่าว
ผู้ประท้วงในกรุงนิวเดลีได้จุดไฟเผาหุ่นผู้นำปากีสถานและ JeM เมื่อวานนี้ (17) และยังมีรายงานชาวแคชเมียร์ถูกทำร้ายร่างกายในหลายเมือง
ทางการได้ประกาศเคอร์ฟิวเป็นวันที่ 4 ในเมืองจัมมู (Jammu) ซึ่งเป็นย่านที่มีชาวฮินดูถูกเกณ์เข้าไปอาศัยอยู่จำนวนมากในแคชเมียร์ หลังมีม็อบบุกเข้าไปทำลายข้าวของและจุดไฟเผาทรัพย์สินของชาวมุสลิม ส่วนสัญญาณอินเทอร์เน็ตมือถือก็ถูกตัดทั่วทั้งรัฐ
แคชเมียร์ถือเป็นพื้นที่ซึ่งมีการเสริมกำลังทหารมากที่สุดในโลก โดยกองทัพอินเดียได้ส่งทหารเข้าไปประจำการถึง 500,000 นายเพื่อควบคุมชาวแคชเมียร์ ที่ยังคงสนับสนุนกลุ่มนักรบแบ่งแยกดินแดนที่เคลื่อนไหวมาตั้งแต่ปี 1989
ความขัดแย้งในแคชเมียร์ได้คร่าชีวิตพลเรือนไปแล้วนับหมื่นๆ คน โดยสถานการณ์ได้ทวีความรุนแรงขึ้นตั้งแต่ปี 2016 และในปีที่แล้วมีคนถูกสังหารไปเกือบ 600 คน นับเป็นตัวเลขสูงสุดในรอบทศวรรษ