หมู่เกาะมาร์แชลวางแผนยกเกาะ หนีน้ำท่วมจาก “โลกร้อน”

ประธานาธิบดี ฮิลดา เฮน แห่งสาธารณรัฐหมู่เกาะมาร์แชลออกมาย้ำถึงความจำเป็นที่จะต้อง “ยกเกาะ” เพื่อป้องกันไม่ให้ประเทศแห่งนี้จมหายไปในมหาสมุทร เนื่องจากระดับน้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ จากภาวะโลกร้อน

รัฐบาลมีแผนที่จะเปิดเวทีหารือระดับชาติว่ามีเกาะใดบ้างจากทั้งหมด 1,156 เกาะที่พอจะยกพื้นดินให้สูงขึ้นได้ ซึ่งถือเป็นปฏิบัติการแทรกแซงธรรมชาติครั้งใหญ่เพื่อความอยู่รอด

“การยกหมู่เกาะต่างๆ ของเราเป็นภารกิจที่ยิ่งใหญ่เอาการ แต่ก็ต้องทำ” เฮน กล่าวกับหนังสือพิมพ์รายสัปดาห์ มาร์แชล ไอแลนด์ส เจอร์เนิล

“เราต้องการเจตนารมณ์ทางการเมืองที่แน่วแน่ โดยเฉพาะจากผู้นำชุมชน เพื่อที่จะทำงานนี้ให้สำเร็จ… เราต้องร่วมมือกันเป็นหนึ่งเดียว เพราะมันคือความอยู่รอดของประเทศชาติ พลเมือง และวัฒนธรรมของเรา” 

เอกสารนโยบายว่าด้วย “วิกฤตสภาพอากาศ” ที่รัฐบาลจัดทำขึ้นได้เสนอภาพรวมที่ค่อนข้างน่ากลัวสำหรับหมู่เกาะแปซิฟิกซึ่งมีประชากรราว 55,000 คนแห่งนี้ โดยเอ่ยถึง “ปัญหาน้ำท่วม ภัยแล้ง และปรากฏการณ์ปะการังฟอกขาวที่เกิดบ่อยขึ้น ซึ่งทำให้เชื่อได้ว่าสถานการณ์และโอกาสในการอยู่รอดจะยิ่งเลวร้ายลงไปอีก”

หมู่เกาะส่วนใหญ่อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลไม่ถึง 2 เมตร ซึ่งรัฐบาลเชื่อว่าการยกเกาะให้สูงขึ้นในทางกายภาพเป็นวิธีเดียวที่จะป้องกันไม่ให้หมู่เกาะมาร์แชลส์สูญหายไปตลอดกาล

รัฐบาลยังไม่ระบุว่าจะดำเนินการอย่างไร แต่คาดว่าจะได้แผนงานที่เป็นรูปธรรมภายในสิ้นปี

ระหว่างนี้สาธารณรัฐหมู่เกาะมาร์แชลจะติดตามความคืบหน้าของโครงการสร้างเมืองใหม่ในมัลดีฟส์ หรือที่เรียกกันว่า “เมืองแห่งความหวัง” (City of Hope) ซึ่งเกิดจากการนำทรายจากเกาะปะการังรอบๆ มาถมลงบนแนวปะการังน้ำตื้นเพื่อให้เกิดเป็นเกาะใหม่ที่รองรับประชากรได้ราว 130,000 คน และจะมีการสร้างกำแพงสูงเหนือระดับน้ำทะเลถึง 3 เมตร โดยคาดว่าจะสำเร็จภายในปี 2023

รัฐบาลหมู่เกาะมาร์แชลยังเตรียมประสานความร่วมมือในด้านสภาพอากาศกับอีก 3 รัฐหมู่เกาะ ได้แก่ คิริบาส (Kiribati), ตูวาลู และมัลดีฟส์

ความคิดเห็น

comments