เครื่องบินรบของอินเดียได้รุกล้ำน่านฟ้าเข้ามาในดินแดนปากีสถานเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาซึ่งรัฐมนตรีอินเดียระบุว่าเป็นการโจมตีทางอากาศใน “ค่ายฝึก” ซึ่งเพิ่มความตึงเครียดอย่างมากระหว่างเพื่อนบ้านที่มีอาวุธนิวเคลียร์ ที่เคยทำสงครามกันมาแล้ว 3 ครั้ง
การเผชิญหน้าล่าสุดเกิดขึ้นบริเวณพรมแดน หลังเกิดเหตุระเบิดฆ่าตัวตายโจมตีทหารอินเดียเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ในพื้นที่แคชเมียร์โดยกลุ่มติดอาวุธที่มีฐานอยู่ในปากีสถานออกมาอ้างความรับผิดชอบ ขณะที่อินเดียได้ออกมากล่าวหาว่าปากีสถานเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง
ปากีสถานระบุว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นในวันอังคารที่ผ่านมา ไม่มีผู้บาดเจ็บ และ หลังเครื่อบินรบอินเดีย “ทิ้งระเบิด” อย่างเร่งรีบในพื้นที่ป่าหลังจากข้ามแนวพรมแดนของแคชเมียร์ (LoC) ซึ่งทำหน้าที่เป็นพรมแดนระหว่างสองประเทศ
“กองทัพอากาศดำเนินการโจมตีทางอากาศในเช้าวันนี้(อังคาร)ที่ค่ายก่อการร้ายข้ามแดน LoC (Line of Control) และทำลายมันโดยสิ้นเชิง” Gajendra Singh Shekhawat รัฐมนตรีกระทรวงเกษตรของอินเดียกล่าวบน Twitter
กองทัพปากีสถานยืนยันว่าเครื่องบินอินเดียละเมิดน่านฟ้าของตน แต่กล่าวว่า “ไม่มีการโจมตีใส่โครงสร้างพื้นฐาน”
“เครื่องบินอินเดียที่ถูกบุกรุกจากพื้นที่ Muzafarabad” พล. ต. Asif Ghafoor โฆษกกองทัพปากีสถานกล่าวใน Twitter เมื่อช่วงเช้าวันอังคารที่ผ่านมาซึ่งอ้างถึงพื้นที่ในส่วนการปกครองของปากีสถานในแคชเมียร์
Ghafoor กล่าวว่า “การตอบสนองที่รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพจากกองทัพอากาศปากีสถาน” ทำให้เครื่องบินอินเดีย “ทิ้งระเบิดอย่างรวดเร็วในขณะที่หลบหนีซึ่งทำให้ระเบิดตกลงมาใกล้พื้นที่ Balakot ไม่มีการบาดเจ็บล้มตายหรือเสียหาย”
Ghafoor ยังระบุเพิ่มเติมโดยภาพ 4 ภาพในทวิต โดยชี้ว่าเป็นภาพของพื้นที่ซึ่งเป็นเป้าหมายของการทิ้งระเบิดของอินเดีย เป็นพื้นที่ป่าไม้ ไม่มีความเสียหายรุนแรง
พื้นที่ Balakot เป็นเมืองในภูมิภาค Khyber Pakhtunkhwa ในปากีสถานอยู่ห่างจากแนวควบคุม (LoC) ในแคชเมียร์ประมาณ 50 กม. (30 ไมล์) ซึ่งเป็นสาเหตุของสงคราม 2 ใน 3 ของอินเดียและปากีสถานได้ต่อสู้มาตั้งแต่ช่วงปลาย การปกครองของเจ้าอาณานิคมอังกฤษในปี 1947
ที่มา อาหรับนิวส์