ชาบาร์ อัล-อัสซาด ดอดเข้าอิหร่าน พบกับผู้นำสูงสุดอิหร่าน อาลี โคเมเนอี และประธานาธิบดีอิหร่าน ฮัสซัน โรฮานี สวมกอดชื่นมื่น ขอบคุณที่คอยอยู่เบื้องหลังความรุนแรงในสงครามกลางเมืองเกือบ 8 ปี ช่วยค้ำเก้าอี้ให้ได้อยู่ในอำนาจต่อ
AFP รายงานวันอังคาร (26 กุมภาพันธ์) ว่าการพบกันเมื่อวันจันทร์(25)ระหว่างบาชาร์ อัล-อัสซาด ที่เดินทางออกจากกรุงดามัสกัส เพื่อพบกับผู้นำสูงสุดอิหร่าน นายอาลี โคเมเนอี และประธานาธิบดีอิหร่าน ฮัสซัน โรฮานี บาชาร์กล่าวขอบรัฐบาลอิหร่านที่ได้ให้การสนับสนุนระบอบการปกครองของตนมาตั้งแต่เริ่มสงครามกลางเมืองซีเรีย ตามการแถลงของทำเนียบบาชาร์ อัล-อัสซาด
“บรรดาผู้นำได้ต่างทบทวนความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งและเป็นเหมือนพี่น้องระหว่างประชาชนของ 2 ชาติ ซึ่งถือเป็นปัจจัยหลักในการยังคงสนับสนุนซีเรียและอิหร่านถึงแม้จะมีการสมคบคิดของประเทศข้าศึก” สำนักงานทำเนียบประธานาธิบดีแถลง
“อิหร่านพิจารณาที่จะให้ความช่วยเหลือรัฐบาลและประเทศซีเรีย ในการช่วยเหลือความเคลื่อนไหวต่อต้าน และมีความรู้สึกภาคภูมิจากส่วนลึกของหัวใจ” เว็บไซต์ของผู้นำสูงสุดอิหร่านอาลี โคเมเนอี ระบุ
และระบุอีกว่าว่า “การสร้างกันชนที่พวกอเมริกากำลังต้องการที่จะสร้างในซีเรียนั้น ถือเป็นตัวอย่างของการสมคบคิดที่เป็นอันตราย ที่ต้องประณามอย่างรุนแรงและต่อต้าน”
โคเมเนอียังได้ยกย่อง “อัสซาด” เป็น “ฮีโร่ของโลกอาหรับ” อ้างอีกว่า ความไม่หวั่นไหวของอัสซาดทำให้การต่อต้านมีความแข็งแกร่งและน่านับถือ
นอกจากนี้อัสซาดยังได้พบกับประธานาธิบดีอิหร่าน ฮัสซัน โรฮานี ซึ่งในระหว่างการหารือ โรฮานีได้ย้ำให้กับอัสซาดว่า “อิหร่านจะอยู่ข้างอัสซาดในเสถียรภาพ การกลับคืนของผู้ลี้ภัย และกระบวนการทางการเมืองภายใน”
AFP รายงานว่า ซีเรียและอิหร่านได้ร่วมลงนามข้อตกลงมากมายในช่วงปลายเดือนมกราคม รวมไปถึง ข้อตกลงความมือระยะยาวด้านเศรษฐกิจ ซึ่งในเวลานั้นอัสซาดกล่าวว่า ข้อตกลงเหล่านี้จะช่วยทำให้ชาวซีเรียและชาวอิหร่านมีความแข็งแกร่งในการปรับตัวต่อสงครามเศรษฐกิจที่ก่อโดยบรรดาชาติตะวันตก
ทั้งนี้นับตั้งแต่ความรุนแรงปะทุขึ้นในซีเรีย หลังจากทหารได้ใช้ปฎิบัติการรุนแรงในการปราบปรามการประท้วงของพลเรือนเมื่อมีนาคม ปี 2011 จนทำให้มีพลเรือนเสียชีวิตไปหลายแสนคน นับล้านคนได้รับบาดเจ็บ จำนวนมากกลายเป็นผู้พิการ ขณะที่อีกหลายล้านคนกลายเป็นผู้พลัดถิ่น พบว่าอัสซาดเดินทางอย่างเปิดเผยออกนอกประเทศเพียง 2 ครั้ง โดยครั้งแรกเขาเดินทางไปขอบคุณรัสเซียที่ส่งกำลังร่วมสนับสนุนการปราบปรามประชาชนฝ่ายต่อต้านซีเรีย และล่าสุดที่เดินทางไปอิหร่าน