อินเดียเปิดฉากยิงปะทะปากีฯอีกรอบ หลังปากีฯส่งตัวเฉลยศึกให้

ปืนใหญ่ของอินเดีย และปากีสถาน เปิดฉากยิงเข้าใส่กันอีกครั้งใกล้เส้นแนวควบคุมทำให้มีผู้เสีชีวิตแล้วอย่างน้อย 7 คน

ทหารอินเดีย และปากีสถานตั้งเป้าโจมตีหมู่บ้านของกันและกันตามแนวชายแดนที่ในพื้นที่แคชเมียร์ สังหารพลเรือนอย่างน้อย 5 คน และทหาร 2 นาย นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บอีกหลายรายจากทั้งสองฝ่าย ตามการเปิดเผยเมื่อวันเสาร์(2 มีนาคม)

การต่อสู้เริ่มขึ้นในรุ่งเช้าวันเสาร์โดยมีพี่น้องสองคน และแม่ของพวกเขาตายในแคชเมียร์ส่วนที่ปกครองของอินเดีย

ทั้ง 3 เสียชีวิตหลังจากกระสุนปืนของทหารปากีสถานตกใส่บ้านของพวกเขาในเขต Poonch ใกล้กับ Line of Control (LoC) ซึ่งแบ่งอาณาเขตเทือกเขาหิมาลัยของแคชเมียร์ระหว่างสองประเทศที่มีนิวเคลียร์ในครอบครอง ตามการเปิดเผยของตำรวจในพื้นที่

พ่อของเด็กบาดเจ็บสาหัส และเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล

ในดินแดนแคชที่อยู่ภายใต้การปกครองของปากีสถานมีชายคนหนึ่ง และเด็กชายอีกคนถูกสังหารโดยกระสุนปืนของทหารอินเดียใน Nakiyal ตามการเปิดเผยของ Nasrullah Khan เจ้าหน้าที่โรงพยาบาล เขากล่าวเสริมว่ามีชายคนหนึ่งได้รับบาดเจ็บในพื้นที่ Tatta Pani ด้วย

กองทัพปากีสถานกล่าวในแถลงการณ์ว่าทหารสองนายเสียชีวิตใน Nakiyal โดย “การยิงปืนเข้าใส่กัน โดยตั้งเป้าที่ป้อมปืนใหญ่ของอินเดียที่ใช้ยิงเข้าใส่พลเรือนในปากีสถาน”

เจ้าหน้าที่ตำรวจคนหนึ่งในเมืองราวัลโกตบอกกับอัล-ญะซีเราะห์โดยไม่เปิดเผยชื่อว่ามีชายคนหนึ่งได้รับบาดเจ็บ และบ้าน 3 หลังถูกทำลายในการทิ้งยิงถล่มของอินเดียในชั่วข้ามคืน

นอกจากนี้ในแคชเมียร์ซึ่งบริหารงานโดยปากีสถาน Umar Azam เจ้าหน้าที่ของปากีสถานกล่าวว่ากองทหารอินเดียใช้อาวุธหนัก “เล็งเป้าหมายบ้านเรือนประชาชนบริเวณชายแดน” ตามแนวชายฝั่ง LoC

เจ้าหน้าที่ของทั้งสองประเทศใช้คำอธิบายตามปกติสำหรับการเผชิญหน้าทางทหารโดยอ้างว่าทหารของพวกเขาดำเนินการตอบโต้ตาม “สมควร” และตำหนิอีกฝ่ายสำหรับการฝ่าฝืนข้อตกลงที่ “ไม่ได้รับการยอมรับ” ตามข้อตกลงหยุดยิงในปี 2003

ความตึงเครียดได้เพิ่มขึ้นอย่างมากเนื่องจากเครื่องบินรบอินเดียได้บินล้ำน่านฟ้าปากีสถานเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาโดยดำเนินการในสิ่งที่อินเดียเรียกว่าการโจมตีค่ายฝึกของกลุ่ม Jaish-e-Muhammad (JeM) ซึ่งอ้างความรับผิดชอบต่อเหตุระเบิดฆ่าตัวตายในแคชเมียร์ที่ทำให้ทหารอินเดียกว่า 40 คนเสียชีวิตเมื่อเดือนที่แล้ว

กลุ่มผู้ประท้วงได้ต่อสู้กับการปกครองของอินเดียมาตั้งแต่ปี 1989 และเรียกร้องให้แคชเมียร์เป็นหนึ่งเดียวกันภายใต้การปกครองของปากีสถานหรือไม่ก็ให้แคชเมียร์อยู่ในฐานะประเทศอิสระ

ความรู้สึกต่อต้านอินเดียนั้นได้ดำเนินไปอย่างหยั่งรากลึกในภูมิภาค และผู้คนส่วนใหญ่สนับสนุนการเรียกร้องเอกราช ต่อต้านการปกครองของอินเดียในขณะเดียวกันก็มีส่วนร่วมในการประท้วงตามท้องถนนของพลเรือนกับการควบคุมของอินเดีย

‘สันติภาพที่หยิบยื่นจากปากีสถาน’
หลังจากปากีสถานตอบโต้การโจมตีทางอากาศของอินเดียด้วยการยิงเครื่องบินไอพ่นแบบ MiG-21 ของอินเดียตกเมื่อวันพุธ และจับตัวนักบินของอินเดียได้ในฐานะเชลยศึก ก่อนจะส่งกลับคืนให้อินเดียในวันศุกร์ในรูปแบบของ “ไมตรีแห่งสันติภาพ”

ผู้บัญชาการกองบิน Abhinandan Varthaman ที่ถูกจับเป็นเชลย ได้เดินข้ามชายแดน Wagah-Attari เวลาประมาณ 21.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น (16:00 GMT) ในวันศุกร์ แม้จะช้าว่าที่คาดการณ์ไว้ราว 1 ชั่วโมง

คำแถลงการณ์ของกระทรวงต่างประเทศของปากีสถานกล่าวว่า Varthaman ได้ถูกส่งกลับไปยังอินเดียและเขาได้รับการปฏิบัติ “อย่างสมศักดิ์ศรี” ในระหว่างที่เขาถูกควบคุมตัว

“ในขณะที่ถูกกักขังเขาได้รับการปฏิบัติอย่างมีศักดิ์ศรี และสอดคล้องกับกฎหมายระหว่างประเทศ อิมรอน ข่านนายกรัฐมนตรีปากีสถานกล่าวว่าการส่งตัวเชลยศึกกลับประเทศเป็นการแสดงความปรารถนาดีที่มุ่งเน้นการลดระดับความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นกับอินเดีย” แถลงการณ์ระบุ

Varthaman กลายเป็นวีรบุรุษในอินเดียหลังจากภาพที่ถูกเผยแพร่ทางออนไลน์ เผยให้เห็นว่าเขาถูกชาวบ้านในท้องถิ่นทำร้าย หลังจับตัวเขาได้ ก่อนส่งตัวให้กับทหารปากีสถานพร้อมกับโซเชียลมีเดียที่มีแฮชแท็ก #GivebackAbhinandan

Kamal Hyder ผู้สื่อข่าวอัล-ญะซีเราะห์ รายงานจากกรุงอิสลามาบัดเมืองหลวงของปากีสถานว่าสถานการณ์ดังกล่าวยังคง “สำคัญ” หลังจากการปล่อยเชลยสงคราม Varthaman ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับวิธีการ “ลดผลกระทบจากวิกฤตที่เพิ่มขึ้นนี้”

“กองทัพปากีสถานยังคงตื่นตัวเต็มที่ พวกเขาบินลาดตระเวนทางอากาศอย่างต่อเนื่องทั่วประเทศปากีสถาน แม้ว่าน่านฟ้าจะกลับมาเปิดทำการแล้ว แต่การเคลื่อนไหวของเครื่องบินระหว่างอินเดียกับปากีสถานโดยเฉพาะเครื่องบินพาณิชย์ยังอยู่ภายใต้ข้อ จำกัด” Kamal Hyder กล่าว

แต่ถึงกระนั้น คณะครม.ปากีสถาน ก็ได้แถลงว่า การให้บริการรถไฟข้ามพรมแดนระหว่างปากีสถานและอินเดียจะกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งในวันจันทร์(4)

โดย เมื่อวันเสาร์ที่(2 มีนาคม)ผ่านมา รัฐมนตรีต่างประเทศปากีสถาน Shah Mahmood Qureshi แถลงว่า รัสเซียได้เข้ามาเสนอตัวเป็นคนกลางไกล่เกลี่ยเพื่อคลายความตรึงเครียด และเขาบอกอีกว่า ทางปากีสถานพร้อมที่จะตอบรับ แต่ในเวลานี้ยังไม่ทราบว่าฝ่ายอินเดียจะตอบตกลงหรือไม่

และในการแถลงรัฐมนตรีต่างประเทศปากีสถานกล่าวว่า เจ้าหน้าที่การทูตระดับสูงของซาอุฯจะเดินทางเยือนปากีสถานในไม่ช้า นอกจากนี้ทางปากีสถานคาดว่า ฝ่ายจีนจะส่งทูตมายังปากีสถาน และอินเดียในสัปดาห์ที่จะถึงนี้

เอพีรายงานว่า Sheikh Rashid Ahmed รัฐมนตรีกระทรวงการรถไฟปากีสถานแถลงในวันเสาร์(2) ว่าการให้บริการรถไฟด่วน Samjhauta Express ที่เชื่อมระหว่างเมืองลาฮอร์ของปากีสถานและเมืองอาตารี(Atari ) ซึ่งเป็นเมืองติดพรมแดนฝั่งอินเดียจะสามารถกลับมาเปิดให้บริการได้อีกครั้งในวันจันทร์(4) ซึ่งการให้บริการต้องหยุดลงชั่วคราวจากคำสั่งของเจ้าหน้าที่ปากีสถานในสัปดาห์ที่ผ่านมาหลังเครื่องบินรบอินเดียก่อเหตุบินล้ำน่านฟ้าปากีสถาน

ความคิดเห็น

comments