อิสราเอลอ้างเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่มัสยิดที่มีความอ่อนไหวสูงของกรุงเยรูซาเล็ม ส่งตำรวจอิสราเอลปิดกั้นการเข้าถึงมัสยิดเมื่อวันอังคาร(12 มีนาคม)หลังจากที่เกิดความตึงเครียดหลายสัปดาห์
ตำรวจบอกว่าพวกเขาปิดพื้นที่มัสยิดอัลอักซอหลังจากละเบิดเพลิงได้สร้างเสียหายต่อที่ทำการตำรวจ
วิดีโอแพร่กระจายทางออนไลน์ของการะปะทะกันของตำรวจอิสราเอล และชาวปาเลสไตน์ก่อนพื้นที่มัสยิดจะถูกปิด
ตำรวจกล่าวว่ามีผู้ถูกจับกุมมากกว่า 10 คนในขณะที่สภาเสี้ยววงเดือนแดงของชาวปาเลสไตน์รายงานว่ามีผู้บาดเจ็บ 2 คน
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับความเดือดร้อนจากการสูดควัน ตำรวจกล่าว
ตำรวจบอกว่าพวกเขาพบประทัด และระเบิดเพลิงจำนวนมากในการตรวจค้นพื้นที่
ชาวปาเลสไตน์ในพื้นที่กล่าวว่าตำรวจยัง จำกัด การเข้าถึงพื้นที่ของชาวปาเลสไตน์ในเขตเมืองเก่าของกรุงเยรูซาเล็มซึ่งเป็นที่ตั้งของมัสยิด
ผู้คนร่วมกันละหมาดที่ด้านนอกประตูที่ถูกล็อคของมัสยิดเพื่อประท้วง
จอร์แดนผู้ดูแลมัสยิดอัล-อักซอประณามการปิดมัสยิดเป็นสิ่งที่ “ยอมรับไม่ได้”
Abdul Nasser Abul Al-Basal รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกิจการศาสนาอิสลามของจอร์แดนบอกสถานีโทรทัศน์ Al-Mamlaka ของรัฐ ระบุว่าการปิดมัสยิดเป็น “การโจมตีในเสรีภาพทางศาสนา”
การปิดมัสยิดสำคัญลำดับที่ 3 ในศาสนาอิสลาม และตั้งอยู่ในกรุงเยรูซาเล็มซึ่งเป็นที่ตั้งของเมืองหลวงของรัฐปาเลสไตน์
นอกจากนี้ยังเป็นที่ตั้งของสถานที่สำคัญของศาสนายูดาย และศาสนาคริสต์ด้วย
ชาวยิวได้รับอนุญาตให้เข้ามาในพื้นที่มัสยิด แต่ไม่สามารถทำอิบาดะห์ที่นั่นได้และมันเกิดความตึงเครียดบ่อยครั้ง
มัสยิดตั้งอยู่ในกรุงเยรูซาเล็มตะวันออกที่ถูกอิสราเอลยึดครองไปตั้งแต่ปี 1967 หลังสงครามหกวัน แต่ไม่ได้รับการยอมรับจากนานาชาติ
เจ้าหน้าที่ปาเลสไตน์ยืนยันว่าองค์กรที่สั่งห้ามไม่มีอำนาจ และไม่มีเหตุผล
อิสราเอลและจอร์แดนเชื่อว่าจะมีการหารือเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น
ตำรวจได้ยื่นคำร้องต่อศาลอิสราเอลเพื่อให้มีคำสั่งให้ปิดอาคารอีกครั้ง แต่ศาลเปิดให้มีการเจรจาก่อน
การดำเนินการดังกล่าวสร้างความตึงเครียดในพื้นที่ และเกรงว่าจะกลายเป็นการดำเนินการเพื่อหวังผลทางการเมืองในการเลือกตั้งอิสราเอลที่จะมาถึงในวันที่ 9 เมษายน ที่จะถึงนี้