นิวซีแลนด์จับวัยรุนขึ้นศาล หลังแพร่คลิปกราดยิงมัสยิดพร้อมยั่วยุ

วัยรุ่นชายชาวนิวซีแลนด์วัย 18 ปี ขึ้นศาลวันจันทร์(18 มีนาคม)ถูกตั้งข้อหาเผยแพร่คลิปถ่ายทอดสดเหตุยิงที่มัสยิดในเมืองไครสต์เชิร์ชของนิวซีแลนด์ พร้อมข้อความยั่วยุ ด้านเฟซบุ๊กถูกจวกเป็นต้นเหตุแพร่ความรุนแรง

อัยการนิวซีแลนด์ระบุว่า นอกจากข้อหาเผยแพร่คลิปถ่ายทอดสดเหตุยิงที่มัสยิดอัลนูร์ หนึ่งในสองมัสยิดที่เกิดเหตุเมื่อวันศุกร์แล้ว วัยรุ่นรายนี้ยังถูกตั้งข้อหาเผยแพร่ภาพถ่ายมัสยิดแห่งนี้พร้อมข้อความว่า เป้าหมายถูกจัดการแล้ว และข้อหายุยงให้เกิดความรุนแรง

หากถูกตัดสินว่ามีความผิดมีโทษจำคุกสูงสุด 14 ปีต่อความผิดแต่ละข้อหา ศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว และสั่งให้ขึ้นศาลอีกครั้งในวันที่ 8 เมษายน ศาลสั่งไม่ให้เปิดเผยชื่อของเขาและรายละเอียดของข้อหา

ด้านเจ้าหน้าที่สอบสวนนิวซีแลนด์เผยว่า จนถึงขณะนี้ยังเชื่อว่าวัยรุ่นรายนี้ไม่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการก่อเหตุของนายเบรนตัน แฮร์ริสัน แทร์เรนต์ ชายชาวออสเตรเลียวัย 28 ปี ผู้ก่อการร้ายผิวขาวที่ก่อเหตุกราดยิงคนในมัสยิดทำให้มีผู้เสียชีวิต 50 ราย

แม้เฟสบุ๊กจะอ้างว่าได้รีบลบคลิป, บัญชีเฟสบุ๊ก และอินสตาแกรมของคนร้ายในทันทีหลังจากเขาใช้กล้องที่ติดไว้บนตัว ถ่ายทอดสดผ่านเฟซบุ๊กขณะไล่ยิงคนในมัสยิดอัลนูร์อย่างไม่เลือกหน้าเมื่อวันศุกร์ที่(15 มีนาคม)ผ่านมา

นอกจากนี้ยังลบคลิปที่ส่งต่อทั่วโลกได้  1.5 ล้านครั้งในช่วง 24 ชั่วโมงแรก โดยเป็นการบล็อกการอัพโหลดถึง 1.2 ล้านครั้ง

โฆษกเฟซบุ๊กนิวซีแลนด์แถลงว่า บริษัททำงานตลอด 24 ชั่วโมงโดยใช้ทั้งกำลังคนและเทคโนโลยีลบเนื้อหาที่ละเมิด

แต่ผู้เชี่ยวชาญเผยว่า มีคนกู้คลิปความยาว 17 นาทีนี้ได้อย่างง่ายดายหลังเหตุการณ์ผ่านไปแล้วหลายชั่วโมง ข้อมูลของเฟซบุ๊กเองยอมรับว่า มีการอัพโหลดอย่างน้อย 300,000 ครั้งที่บล็อกไม่ทัน และไม่มีตัวเลขอย่างเป็นทางการว่าคลิปเหล่านี้ถูกดูหรือส่งต่อไปแล้วกี่ครั้ง

นายกรัฐมนตรีจาซินดา อาร์เดิร์นของนิวซีแลนด์ชี้ว่า เป็นความรับผิดชอบของสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ ที่เข้าถึงคนอย่างกว้างขวาง เพราะเกินความสามารถของนิวซีแลนด์ รัฐบาลจะหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นหารือกับเฟซบุ๊กต่อไป

หนังสือพิมพ์นิวซีแลนด์เฮรัลด์รายงานว่า บริษัทใหญ่บางแห่งกำลังพิจารณาถอดโฆษณาออกจากเฟซบุ๊กเพื่อตอบโต้ข้อบกพร่องร้ายแรงดังกล่าว

ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เฟซบุ๊กถูกใช้เป็นช่องทางเผยแพร่ความป่าเถื่อน นายสตีฟ สตีเฟนส์ ชายชาวเมืองคลีฟแลนด์ในสหรัฐโพสต์คลิปยิงชายชราที่กำลังเดินกลับบ้านในปี 2560 ทั้งที่ไม่รู้จักกัน แต่ทำไปเพราะเพิ่งทะเลาะกับแฟน ครั้งนั้นเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์แจ้งว่า ได้ลงทุนด้านเทคโนโลยีและทรัพยากรบุคคลเพื่อแก้ปัญหานี้

นายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสันของออสเตรเลียชี้ว่า สื่อสังคมออนไลน์แสดงท่าทีว่าเต็มใจแก้ปัญหา แต่กลับไม่เห็นการดำเนินการอย่างจริงจัง

ขณะที่สื่อหลักหลายแห่งของออสเตรเลียที่นำคลิปนี้มาออกอากาศ ทางการออสเตรเลียได้เปิดการสอบสวนอย่างเป็นทางการว่ามีสื่อใดทำผิดกฎหมายหรือไม่ หลังจากสกายนิวส์ออสเตรเลียออกอากาศคลิปกราดยิงดังกล่าว

ความคิดเห็น

comments