ผู้อพยพ 37 คนที่เชื่อว่าเป็นชาวโรฮิงญาจากพม่าถูกพบบนชายฝั่งในตอนเหนือของมาเลเซียเมื่อวันจันทร์ (8 เมษายน) ตามการเปิดเผยของตำรวจที่ระบุหวั่นอาจเป็นจุดเริ่มต้นของการลักลอบเข้าประเทศทางทะเลระลอกใหม่
ในช่วงไม่กี่เดือนมานี้ ชาวโรฮิงญาหลายสิบคนพยายามล่องเรือออกทะเลไปให้ถึงมาเลเซีย ซึ่งพบว่ามีจำนวนผู้อพยพลดน้อยลงหลังจากการกวาดล้างแก๊งค้ามนุษย์ในปี 2015
เมื่อเดือนที่แล้ว ผู้อพยพ 35 คนถูกพบบนชายหาดซันไกเบลาตีในรัฐปะลิสทางตอนเหนือ
ในวันจันทร์ (8) ชาย 37 คนถูกจับกุมรอบๆ เมืองซิมปังเอ็มปัต หลังจากขึ้นฝั่งที่ชายหาดเดียวกันในช่วงเช้ามืด ตามการเปิดเผยของ นูร์ มูชาร์ โมฮาหมัด ผู้บัญชาการตำรวจของรัฐ
“เราเชื่อว่าพวกเขามาด้วยเรือที่ใหญ่กว่าเดิมมาก ก่อนที่จะถูกขนถ่ายลงเรือเล็กกลางทะเลและถูกนำไปยังสถานที่ต่างๆ” เขากล่าว และเสริมว่า ชายกลุ่มนี้แข็งแรงดีและถูกส่งตัวให้เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองแล้ว
ในปี 2017 ชาวโรฮิงญากว่า 730,000 คนข้ามเข้าสู่บังกลาเทศเพื่อหลบหนีการกวาดล้างของกองทัพในรัฐยะไข่ของพม่า ตามรายงานของสหประชาชาติที่ระบุว่าปฎิบัติการของพม่าเป็นการกวาดล้างทางชาติพันธุ์
เจ้าหน้าที่เชื่อว่า ผู้อพยพที่ถูกพบในวันจันทร์ (8) มาจากพม่าหรือบังกลาเทศ
“เรายังกำลังสืบสวนด้วยว่าเรือเหล่านี้มาจากไหน แต่เราสงสัยว่าแก๊งค้ามนุษย์มีส่วนเกี่ยวข้อง” นูร์ มูชาร์ กล่าว
การปะทุขึ้นของความรุนแรงทางศาสนาในยะไข่เมื่อปี 2012 บีบให้ชาวโรฮิงญาหลายพันคนต้องหนีออกจากเมียนมาร์ทางทะเล การอพยพพุ่งสูงสุดในปี 2015 เมื่อคนราว 25,000 คนหลบหนีข้ามทะเลอันดามันเพื่อมาไทย มาเลเซีย และอินโดนีเซีย หลายคนจมน้ำเนื่องจากเรือไม่ปลอดภัยและบรรทุกน้ำหนักเกิน