องค์การสหประชาชาติกล่าวว่ามีรายงานว่ามีชาวโรฮิงญาเสียชีวิตสูงถึงราว 30 คนในปฎิบัติการทางอากาศของทหารพม่าในการโจมตีรัฐยะไข่
สำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (OHCHR) กล่าวว่ากลัวว่าพลเรือนชาวโรฮิงยาหลายสิบคนอาจถูกสังหารเนื่องจากการโจมตีทางทหารในรัฐยะไข่ของพม่าเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
“ตอนนี้เราได้รับรายงานว่าตัวเลขอาจสูงกว่านั้นมากเรายังไม่ได้ยืนยันรายงานว่าตัวเลขอาจสูงถึง 30” Ravina Shamdasani โฆษกของ OHCHR กล่าวเมื่อวันอังคาร(9 เมษายน)
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาหนังสือพิมพ์ Myawady Daily ของกองทัพพม่าได้กล่าวว่าชาวโรฮิงยาทั้ง 6 คนเสียชีวิตและบาดเจ็บ 9 คนจากการโจมตีทางอากาศเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ในขณะที่กองทัพกำลังปราบปรามผู้ก่อการร้ายติดอาวุธชาวยะไข่
แต่โฆษกกองกำลัง Arakan ซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธของชาวยะไข่ Khin Thu Kha ปฏิเสธว่าคนตายและบาดเจ็บไม่ได้เป็นสมาชิกของกลุ่มเขา พร้อมกล่าวว่าทหารโจมตีอย่างไม่เลือกหน้า
“พวกเขาวางระเบิดทุกแห่งที่เชื่อว่ามีสมาชิกของเราอยู่ในป่า” เขากล่าวกับสำนักข่าวรอยเตอร์
ชาวบ้าน 3 คนและเจ้าหน้าที่ระดับภูมิภาคได้บอกกับสำนักข่าวรอยเตอร์เมื่อวันพฤหัสบดีว่าชายชาวโรฮิงญากำลังตัดต้นไผ่ใกล้กับน้ำตกไทรดินเมื่อเฮลิคอปเตอร์กองทัพกราดยิงเข้าใส่พวกเขา
“พวกเขาทั้งหมดเป็นคนงานตัดไม้ไผ่” Soe Tun Oo ผู้ใช้แรงงานคนหนึ่งกล่าว
รัฐยะไข่เป็นศูนย์กลางของการปราบปรามอย่างโหดร้ายของกองกำลังความมั่นคงของพม่าในปี 2560 ซึ่งบังคับให้ชาวโรฮิงญาประมาณ 730,000 คนหนีตายไปยังบังคลาเทศ
สหประชาชาติได้กล่าวหาว่ากองทัพพม่ามี “เจตนาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” ในการรณรงค์ต่อต้านชนกลุ่มน้อยมุสลิมส่วนใหญ่ที่ถูกกลั่นแกล้งมานานในประเทศแห่งนี้
ที่มา อัล-ญะซีเราะห์