ตร.ศรีลังกาคุ้มเข้มมัสยิด หวั่นตกเป็นเป้าโจมตี

ตำรวจติดอาวุธและสุนัขดมกลิ่น ประจำการเพื่อปกป้องมัสยิดในศรีลังกาในช่วงเวลาที่ชาวมุสลิมละหมาดยุมอัต(วันศุกร์)ป้องกันการตกเป็นเป้าโจมตี

saudi gazette รายงานว่ามัสยิดบางแห่งต้องยกเลิกการละหมาดยุมอัต และรัฐมนตรีกิจการมุสลิมของศรีลังกาเรียกร้องให้ชาวมุสลิมละหมาดที่บ้านแทนด้วยความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันกับโบสถ์ที่ปิดด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย

ชาวมุสลิมอื่น ๆ แสดงความกลัวว่าพวกเขาจะตกเป็นเป้าหมายของกลุ่มหัวรุนแรง หลังจากผู้นำศาสนาของชุมชนกล่าวว่าผู้ก่อเหตุระเบิดฆ่าตัวตายจะไม่ถูกฝังที่มัสยิดในประเทศ

ในบรรดามัสยิดที่จัดการละหมาดในวันศุกร์ที่กรุงโคลอมโบเมืองหลวงนั้นมีผู้เข้าร่วมน้อยและผู้มาละหมาดบางคนบอกว่าพวกเขาต้องการลุกขึ้นสู้กับพวกหัวรุนแรง

“เรากำลังส่งข้อความถึงพวกหัวรุนแรงว่าเราจะไม่กลัวพวกเขา” Reyyaz Salley, ประธานของ Dawatagaha Jumma mosque

“แต่เหตุผลหลักที่เราอยู่ที่นี่ก็เพราะเราต้องการขอดุอาอฺให้ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของการวางระเบิดโบสถ์ และโรงแรมสำคัญ” เขากล่าวเสริม

มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 253 คนจากเหตุระเบิดฆ่าตัวตายโจมตีโบสถ์ 3 แห่งและโรงแรม 3 แห่งในวันอาทิตย์ด้วยการประสานงานกันกับกลุ่มหัวรุนแรงท้องถิ่น National Thowheeth Jama’ath หลังจากกลุ่มดาอิชได้อ้างสิทธิ์การโจมตี

เหตุระเบิดดังกล่าวถูกประณามจากผู้นำชาวมุสลิมในศรีลังกา แต่บางคนกังวลว่าชุมชนมุสลิมจะตกเป็นเป้าโจมตีจากกลุ่มศาสนาอื่น ๆ เช่นกัน

ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ติดอาวุธ หลายสิบนาย ได้วางกำลังปกป้องมัสยิด Dawatagaha Jumma ซึ่งเคยถูกคุกคามเนื่องจากเป็นที่ตั้งของศาลเจ้าซูฟี ซึ่งเป็นรูปเคารพที่ขัดต่อหลักการศาสนาอิสลาม

ตำรวจป้องกันไม่ให้ผู้คนเดินหรือจอดยานพาหนะด้านนอกหลังจากมีข่าวลือบนสื่อออนไลน์เกี่ยวกับการโจมตีด้วยระเบิดรถยนต์

สุนัขดมกลิ่นเฝ้าระวังขณะที่ตำรวจตรวจกระเป๋า และตรวจตามร่างกายทุกคนรวมทั้งนักข่าวก่อนที่จะเข้าไปข้างใน

“เราไม่กลัว ที่สุดเราต้องตาย และมันสามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่” Salley กล่าว

อย่างไรก็ตามหลายคนไม่ได้มาร่วมละหมาดที่มัสยิด

Salley กล่าวว่าในการละหมาดวันศุกร์ที่มัสยิด Dawatagaha Jumma จะมีผู้เข้าร่วมมากถึง 700 คน แต่วันนี้มีเพียง 100 คนเท่านั้น

การละหมาดถูกตัดให้สั้นลงจากปกติหนึ่งชั่วโมงเหลือเพียง 15 นาทีเพราะสถานการณ์ความปลอดภัยโดยอิหม่ามของมัสยิดบอกกับผู้รวมละหมาดว่า ท่านนบีมูฮัมหมัด ศ็อลลั๊ลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม จะประณามการโจมตีนี้

หลังจากการละหมาด ผู้ร่วมละหมาดจำนวนหนึ่ได้ถือป้ายประณามการโจมตี และให้คำมั่นสัญญาความเป็นปึกแผ่นกับชุมชนคริสเตียนในประเทศ

“การฆ่าตัวตายไม่มีในอิสลาม” ป้ายระบุ “ให้ผู้นำทางการเมือง และศาสนาทั้งหมดมารวมกันและทำให้บ้านเมืองของเราเข้มแข็ง” อีกป้ายระบุ

“มัสยิดแห่งนี้เปิดกว้างสำหรับมวลชนของคุณ” ป้ายระบุ

ห่างออกไป 330 กม. ใน Kattankudy ส่วนใหญ่ของชาวมุสลิมบนชายฝั่งตะวันออกของศรีลังกา มีผู้ใหญ่และเด็กมากกว่า 1,000 คนเข้าร่วมละหมาดที่มัสยิด Mohiuddin Methaipali Jumma ที่เป็นมัสยิดหลักของเมือง

“การโจมตีเกิดขึ้นโดยคนกลุ่มเล็ก ๆ แต่บางคนก็ตำหนิชุมชนมุสลิมศรีลังกาทั้งหมด มันไม่ยุติธรรมเลย” โมฮัมเหม็ด ราเมชเจ้าหน้าที่มัสยิดกล่าว

“คนที่ทำสิ่งนี้ไม่ใช่มนุษย์ ชาวศรีลังกาทั้งหมดต้องรวมตัวกันต่อต้านเรื่องนี้ ทั้งชาวพุทธ ชาวคริสต์ ชาวฮินดู และชาวมุสลิม”

“ฉันได้ละหมาดวันละ 5 เวลา ขอดุอาอฺให้กับผู้ที่ตกเป็นเหยื่อในโบสถ์คริสเตียนตั้งแต่เกิดการโจมตีขึ้น” เขากล่าวเสริม

Mohammed Farook Mohammed Shibly วัย 44 ปีกล่าวว่าเขาอดอาหารตั้งแต่ดวงอาทิตย์ขึ้น ถึงดางอาทิตย์ตก – มากกว่า 13 ชั่วโมงต่อวันเพื่ออุทิศแด่ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อ

“มันน่าตกใจมากสำหรับเรา … โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่โบสถ์ตกเป็นเป้าหมาย” เขากล่าว

“เราประณามการกระทำป่าเถื่อนนี้”

“The All Ceylon Jamiyyathul Ulama ขอให้ผู้คนอดอาหาร … เพื่อขอดุอาอฺให้ประเทศกลับสู่ความสงบสุขอีกครั้ง” เขากล่าว

“ฉันอดอาหารมาสองวันแล้ว และฉันจะอดอาหารต่อไปจนกว่าสถานการณ์จะเป็นปกติ ฉันสามารถทำการสิ่งนี้ได้”

ความคิดเห็น

comments