ในคำปราศรัยเมื่อค่ำวานนี้ (5) สมเด็จพระราชาธิปดีสุลต่าน ฮัสซานัล โบลเกียห์ ตรัสว่า การระงับโทษประหารที่มีผลกับประมวลกฎหมายอาญาทั่วไปของบรูไนจะครอบคลุมถึงประมวลกฎหมายชารีอะห์ชุดใหม่ ซึ่งรวมถึงการประหารชีวิตด้วยการปาหินจากความผิดต่าง ๆ ด้วย
ประมวลกฎหมายชารีอะห์ซึ่งจะลงโทษโจรลักขโมยด้วยการตัดมือตัดเท้าด้วย มีผลเต็มรูปแบบเมื่อเดือนที่แล้ว ทำให้บรูไนเป็นประเทศแรกในเอเชียตะวันออกหรือตะวันออกเฉียงใต้ที่ใช้กฎหมายชารีอะห์ทั่วประเทศ
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวสร้างความไม่พอใจให้กับหลายรัฐบาลและกลุ่มสิทธิ องค์การสหประชาชาติระบุว่า มันเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างชัดเจน และผู้มีชื่อเสียงหลายคนที่มีพฤติกรรมเบี่ยงเบนทางเพศนำโดยนักแสดง จอร์จ คลูนีย์ เรียกร้องให้คว่ำบาตรโรงแรมในเครือของบรูไน
ในการถ่ายทอดสด สมเด็จพระราชาธิบดีฯ ทรงแสดงความเห็นของพระองค์เกี่ยวกับประเด็นนี้เป็นครั้งแรกและทรงตรัสถึงเสียงวิจารณ์ว่า “มีคำถามและความเข้าใจผิดมากมายเกี่ยวกับกฎหมายชารีอะห์”
“ทั้งกฎหมายธรรมดาและกฎหมายชารีอะห์ต่างมีจุดประสงค์เพื่อรักษาความสงบและความสามัคคีของประเทศ”
อาชญากรรมบางอย่างในบรูไน รวมถึงการฆาตกรรมและค้ายาถูกลงโทษด้วยการประหารชีวิตแบบแขวนคออยู่แล้วภายใต้ประมวลกฎหมายอาญาทั่วไป ซึ่งบังคับใช้ควบคู่ประมวลกฎหมายชารีอะห์ แต่ก็ไม่ได้มีใครถูกประหารชีวิตมาหลายสิบปีแล้ว
สมเด็จพระราชาธิบดีฯ ตรัสว่า “เรามีการระงับโทษประหารสำหรับคดีภายใต้กฎหมายทั่วไป”
“นี่ก็จะมีผลกับคดีภายใต้ประมวลกฎหมายชารีอะห์ซึ่งมีขอบเขตของการผ่อนคลายมากกว่าด้วย”