ศูนย์การศึกษาพิกุลทองอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จัดกิจกรรม “ชมศูนย์ศึกษา พัฒนาความรู้ ดูนิทรรศการ” ให้กับนักเรียนนักศึกษาและประชาชน ครั้งที่ 20
ผู้สึกข่าวรายงานศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เปิดให้นักเรียนนักศึกษาและประชาชน ได้พัฒนาความรู้ ดูนิทรรศการ จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 22 – 28 สิงหาคม 2562 ณ ศูนย์การศึกษาพิกุลทองอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลกะลุวอเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส เพื่อน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ทรงมีพระราชปณิธานในการสืบสาน รักษา ต่อยอดโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ได้พระราชทานแนวทางการพัฒนาไว้ ซึ่งศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองฯ ได้น้อมนำมาปฏิบัติจนประสพผลสำเร็จ มีองค์ความรู้ที่หลากหลาย เพื่อให้ผู้สนใจได้เข้ามาศึกษาหาความรู้ ในลักษณะของ “พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติที่มีชีวิต”
กิจกรรมภายในงานประกอบด้วย การจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ ชุด สืบสาน รักษา ต่อยอด การแข่งขันตอบปัญหาทางวิชาการโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นของโรงเรียนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ นอกจากนี้ยังมีจุดศึกษาเรียนรู้ พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติที่มีชีวิต ที่หน่วยงานต่างๆ ภายในศูนย์ศึกษาฯ มาจัดแสดง สาธิต ให้กับผู้ชมงานได้ศึกษา เรียนรู้ เช่นการสาธิตการขยายพันธุ์พืช การทำปุ๋ยหมักและน้ำหมัก การปลูกพืชผัก การเลี้ยงสัตว์ การเลี้ยงปลา การแปรรูปเส้นใยพืช เช่น กระจูด หญ้าแฝก เตยปาหนัน ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีการผลิตสบู่สูตรต่างๆ เพื่อเป็นการลดรายจ่ายในครัวเรือนอีกด้วย และยังมีกับจำหน่ายฝึกผักต่างๆภายในงานด้วย
ศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2524 เป็นระยะเวลา 38 ปีที่ได้น้อมนำแนวพระราชดำริด้านการพัฒนาต่างๆ มาดำเนินงาน โดยทำการศึกษา ทดลอง วิจัย และพัฒนาดินอินทรีย์และดินที่มีปัญหาอื่นๆ ในพื้นที่พรุ เพื่อนำมาใช้ประโยชน์ทาด้านการเกษตรรวมทั้งศึกษาหาแนวทาง วิธีการพัฒนาทานการเกษตร การเลี้ยงสัตว์ การประมง และการเกษตรอุตสาหกรรมที่มีความเหมาะสมสอดคล้องกับสภาพพื้นที่ภาคใต้ เพื่อให้เป็นต้นแบบแห่งความสำเร็จให้กับพื้นที่อื่นๆ รวมถึงราษฎรในพื้นที่ได้มีรูปแบบการประกอบอาชีพที่เหมาะสมกับท้องถิ่น และสามารถพัฒนาตนเองได้อย่างยั่งยืนต่อไป
ภาพ/ข่าว ซาการียา ดอเลาะ จ.นราธิวาส