บังกลาเทศสั่งหยุดขาย “ซิมการ์ด” ในค่ายผู้ลี้ภัยโรฮิงญา

บริษัทค่ายมือถือบังกลาเทศได้รับคำสั่งจากทางการให้หยุดจำหน่ายซิมการ์ดโทรศัพท์มือถือให้กับผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญา เจ้าหน้าที้กล่าวในวันจันทร์(9 กันยายน) อีกหนึ่งสัญญาณหลังล้มเหลวส่งชาวโรฮิงญาเหล่านี้กลับพม่า

เอเอฟพีรายงานวันจันทร์(9)ว่า บังกลาเทศต้องแบกรับผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญาร่วม 1 ล้านคนนับตั้งแต่รัฐบาลทหารพม่าได้เข้าปราบปรามอย่างหนักในรัฐยะไข่เมื่อสิงหาคม 2017 จนทำให้ชาวมุสลิมโรฮิงญาจำนวนมากหนีออกนอกประเทศและเข้าสู่บังกลาเทศที่มีพรมแดนติดกัน

ในความพยายามการส่งตัวมุสลิมโรฮิงญากลับประเทศล่าสุดภายใต้ข้อตกลงกับพม่าเมื่อปลายเดือนสิงหาคมล่าสุดล้มเหลวไม่เป็นท่า จากการที่พม่าไม่ทำตามข้อเรียกร้องของชาวโรฮิงญา เป็นเหตุให้ผู้ลี้ภัยเหล่านี้ปฎิเสธที่จะเดินทางกลับเข้าพม่า หากไม่ได้รับหลักประกันความปลอดภัยและความเป็นพลเมืองอย่างถูกต้องในพม่าก่อน

และชาวโรฮิงญายังได้รวมตัวกันราว 200,000 คนเพื่อประท้วงในวาระครบรอบ 2 ปีปฎิบัติการกวาดล้างชาติพันธุ์ชาวโรฮิงญาของทหารพม่า

ผู้กำกับด้านการสื่อสารบังกลาเทศออกคำสั่งในวันที่ 3 กันยายนให้บรรดาบริษัทผู้ให้บริการมือถือตัดสัญญาณโทรศัพท์บริเวณค่ายผู้ลี้ภัยโรฮิงญาที่มีหลายสิบแห่ง ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัยเป็นหลัก

และบริษัทผู้ให้บริการทั้ง 4 บริษัทได้รับคำสั่งว่าภายใน 7 วันให้ส่งรายงานการปฎิบัติที่ทางบริษัทเหล่านี้ได้ตัดสัญญาการเชื่อมต่อข้อมูล และได้รับคำสั่งจากทางการให้หยุดจำหน่ายซิมการ์ดสำหรับโทรศัพท์มือถือภายในพื้นที่ค่ายผู้ลี้ภัย

ด้านเอส.เอ็ม. ฟาร์ฮัด(S.M. Farhad) เลขาธิการใหญ่ของสมาพันธ์ผู้ประกอบการให้บริการโทรศัพท์มือถือบังกลาเทศ AMTOB (Association of Mobile Telecom Operators of Bangladesh) ซึ่งเป็นตัวแทนผู้ให้บริการทุกค่ายให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพีวันจันทร์(9)

ฟาร์ฮัดกล่าวต่อว่า นอกจากนี้อินเตอร์เนตความเร็วสูงระบบ 3G และ 4G ภายในภูมิภาคจะถูกปิดระหว่างเวลา 17.00 น. – 06.00 น.

และอีกทั้งยังมีการจำกัดการให้บริการสัญญาณโทรศัพท์ภายในบังกลาเทศ เกิดขึ้นหลังจากที่ชาวโรฮิงญาบริเวณพรมแดนในพม่าใช้เครือข่ายสัญญาณโทรศัพท์บังกลาเทศ

ด้าน โมฮัมหมัด อาบูล มอนซูร์(Mohammad Abul Monsur) หัวหน้าตำรวจเมืองUkhia ซึ่งเป็นที่ตั้งของค่ายผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญาที่ใหญ่ที่สุดในโลก คูตูปาลอง (Kutupalong)ได้ออกมายืนยันความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้

“จะไม่มีซิมการ์ดโทรศัพท์มือถือใหม่สามารถจำหน่ายในเมือง Ukhia” พร้อมเสริมว่าตำรวจได้เฝ้าติดตามสถานการณ์เมือง 2 วันล่าสุด

ด้านกลุ่มฮิวแมนไรท์วอชได้ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้รัฐบาลบังกลาเทศยกเลิกการปิดกั้นทางการสื่อสาร โดยชี้ว่าจะทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง

ความคิดเห็น

comments