ซาอุดิอาระเบียประกาศความสำเร็จในการให้คำมั่นว่าจะให้ความช่วยเหลือแก่เยเมนผ่านการบริจาค 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ชาวเยเมนบางส่วนได้รวมตัวประท้วงความป่าเถื่อนภายใต้การปกครองของกลุ่มกบฎชีอะห์ฮูธีย์ในเยเมนที่ด้านนอกสำนักงานสหประชาชาติประจำยุโรป
คำแถลงโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศซาอุดิอาระเบีย Ibrahim bin Abdulaziz Al-Assaf ระหว่างการประชุมเพื่อการตอบสนองด้านมนุษยธรรมในเยเมนซึ่งจัดขึ้นระหว่างการประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติสมัยที่ 74 ณ นิวยอร์ก
การบริจาคแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของราชอาณาจักรต่อหลักการด้านมนุษยธรรม Al-Assaf กล่าวเสริม
ซาอุดิอาระเบียชี้ว่าประเทศเยเมนไม่สมควรได้รับความทุกข์ทรมานภายใต้การยึดครองของกบฎชีอะห์ฮูธีย์
ประชาคมระหว่างประเทศควรใช้ท่าทีที่จริงจังต่อความช่วยเหลือเนื่องจากวิกฤตด้านมนุษยธรรมที่น่ากลัวที่เกิดขึ้นในเยเมน
กบฎฮูธีย์ล้มเหลวในการดำเนินการตามมติคณะมนตรีความมั่นคงหลายแห่งดำเนินการสรรหาเด็กเข้ามาเป็นกองกำลังติดอาวุธ และขัดขวางการส่งมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม Al-Assaf กล่าว
ขณะที่มีชาวเยเมนกลุ่มหนึ่งมารวมตัวประท้วงที่ด้านนอกสำนักงานใหญ่สหประชาชาติในยุโรปที่กรุงเจนีวาในวันเสาร์(21 กันยายน)เพื่อชี้ให้เห็นถึงการทรมาน และสังหารโหดที่มุ่งเป้าที่พลเรือนที่ดำเนินการโดยกลุ่มกบฎชีอะห์ฮูธีย์
ผู้ประท้วงกล่าวว่ามีผู้บาดเจ็บจำนวนมากเนื่องจากการใช้อาวุธโดยไม่เลือกหน้าในขณะที่บ้านของผู้คนสถานที่ทางประวัติศาสตร์และสถาบันการศึกษาถูกทำลายและหลายครอบครัวต้องพลัดถิ่น
พวกเขายังบอกว่าสมาชิกของสื่อมวลชนถูกกดขี่ และจำกัดสิทธิเสรีภาพในการรายงานข่าว
การประท้วงที่จัดโดยสมาชิกของสหพันธ์เยเมนพลัดถิ่นระหว่างประเทศและองค์กรสิทธิมนุษยชนที่เป็นพันธมิตรกันถือเป็นวันครบรอบการก่อกบฎของกลุ่มชีอะห์ฮูธีย์
ในวันนี้กองกำลังติดอาวุธฮูธีย์ในการประท้วงคัดค้านการตัดสินใจของรัฐบาลที่จะยกเลิกการอุดหนุนราคาน้ำมันเป็นเครื่องบังหน้า ก่อนจะไปร่วมมือกับกองกำลังของอดีตผู้นำเยเมนอย่าง Ali Abdullah Saleh ใช้กำลังเข้ายึดครองเมืองหลวงกรุงซานา
ชาวเยเมน และนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชน และนักข่าวชาวยุโรปมากกว่า 250 คน เรียกร้องให้ลงโทษต่ออาชญากรรมที่กลุ่มกบฎฮูธีย์ก่อขึ้น ภายใต้การปิดหูปิดตาของสภาความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ และคณะมนตรีสิทธิมนุษยชน
ผู้ประท้วงยังประณามทูตพิเศษของเลขาธิการสหประชาชาติต่อกรณีเยเมน มาร์ติน กริฟฟิธส์สำหรับความนิ่งเงียบของเขา และไม่สนใจในการดำเนินการกับกลุ่มกบฎชีอะห์ฮูธีย์ที่ยังคงทำลายล้างและบ่อนทำลายความสงบในระหว่างประเทศ
นอกจากนี้กลุ่มผู้ประท้วงยังได้ประณามการออกมาแสดงความพึงพอใจของผู้ประสานงานด้านมนุษยธรรมสำหรับเยเมน, ลิซ่า แกรนด์ และการออกมาปกป้องกลุ่มกบฎชีอะห์ฮูธีย์ รวมทั้งยังได้เรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศช่วยเยเมนจากการยึดครองของกลุ่มกบฎฮูธีย์
ผู้ประท้วงยังได้แจกใบปลิว และเรียกการจำแนกประเภทของกองกำลังติดอาวุธฮูธีย์ ว่าเป็น กลุ่มผู้ก่อการร้ายเนื่องจากอุดมการณ์คล้ายกับ Daesh, Al-Qaeda และ Hezbollah
ประธานสหพันธ์ดร.Hayaf Khalid Rabih เรียกร้องให้มีการจัดการปัญหาด้านมนุษยธรรมในเยเมน ไม่ใช่เล่นการเมือง
นอกจากนี้เขายังขอให้ประชาคมระหว่างประเทศทำหน้าที่ และออกแรงกดดันให้ฮูธีย์ส่งมอบอาวุธของพวกเขา
กลุ่มผู้ประท้วงยังได้กล่าวสุนทรพจน์ในภาษาอาหรับ, ฝรั่งเศส และอังกฤษที่แสดงความคับข้องใจของพวกเขาเนื่องจากความเฉยเมย และความนิ่งเงียบสงบของประชาคมระหว่างประเทศในการเผชิญกับความทุกข์ทรมานของประชาชนชาวเยเมน
พวกเขาเรียกร้องให้คณะมนตรีความมั่นคง และคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนยอมรับการตัดสินใจที่ประณาม และลงโทษอาชญากรฮูธีย์ และขอให้ “ทุกประเทศที่รักสันติภาพและผู้คนต่างยืนหยัดต่อสู้กับกองกำลังติดอาวุธที่อิหร่านอยู่เบื้องหลัง”