นับเป็นครั้งแรกที่มี 13 ประเทศเปลี่ยนจุดยืนที่ยาวนานของพวกเขา และหันมาโหวตในข้อมติที่สนับสนุนชาวปาเลสไตน์ในเวทีสหประชาชาติเมื่อวันอังคาร(3 ธันวาคม)
เยอรมัน, สาธารณรัฐเช็ก, ออสเตรีย, บัลแกเรีย, เดนมาร์ก, เอสโตเนีย, กรีซ, ลิทัวเนีย, เนเธอร์แลนด์, โรมาเนีย, สโลวาเกีย, บราซิล และโคลัมเบีย ได้ร่วมโหวตให้กับมติประจำปีเกี่ยวกับ “สิทธิปาเลสไตน์ของสำนักเลขาธิการฯ” ตามรายงานของไทม์ออฟอิสราเอล
ก่อนหน้านี้พวกเขาจะงดออกเสียง
รายละเอียดของรายงานซึ่งรวมถึงการเรียกร้องให้หยุดการตั้งถิ่นฐานของชาวอิสราเอลที่ผิดกฎหมายที่ถูกสร้างขึ้นในเวสต์แบงก์ของชาวปาเลสไตน์ ซึ่งได้เป็นมติที่ได้รับการสนับสนุนด้วยเสียงข้างมาก
ตัวแทนชาวปาเลสไตน์บอกกับสมาชิสภาฯ ว่า “ถ้าคุณปกป้องอิสราเอลมันจะทำลายความชอบธรรมของพวกคุณทุกคน” พร้อมเสริมว่าลักษณะนิสัยของอิสราเอลในฐานะรัฐยิวคือ “ชนชาติไร้ยางอาย”
The New York-based Division for Palestinian Rights ได้เสนอรายงานของคณะกรรมการเรื่องการใช้สิทธิในการยึดครองดินแดนของชาวปาเลสไตน์
รายงานที่ได้รับการสนับสนุนจากคอโมโรส, คิวบา, อินโดนีเซีย, จอร์แดน, คูเวต, สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว, กาตาร์, ซาอุดีอาระเบีย, เซเนกัล, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และเยเมน
ขณะที่สหราชอาณาจักร, ฝรั่งเศส และสเปนงดออกเสียงอย่างที่พวกเขาทำทุกปี ทำให้ข้อมติดังกล่าวผ่านที่ประชุมสหประชาชาติไปด้วยมติด้วยคะแนน 87 ไม่เห็นด้วย 54 และงดออกเสีย 21
ที่ประชุมสมัชชาแห่งสหประชาชาติรับรองมติ 5 คำถามของปาเลสไตน์ และตะวันออกกลางรวมถึงการเรียกร้องให้ประเทศสมาชิกไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ในเยรูซาเล็ม ที่เกิดขึ้นหลังจากข้อตกลงตามแนวเส้นเขตแดนปี 2510(1967)
การลงมติซึ่งยังรวมถึงการเรียกร้องให้หยุดการตั้งถิ่นฐานของอิสราเอลที่ถูกสร้างขึ้นในเขตเวสต์แบงก์ที่ถูกยึดครอง
นอกจากนี้ยังมีมติอื่นที่เรียกร้องให้อิสราเอลถอนตัวจากที่ราบสูงโกลัน และให้ข้อมูลเกี่ยวกับ “คำถามของปาเลสไตน์” ด้วย
ที่มา MEMO
