อินเดียเพิ่มระดับความปลอดภัย และปิดกั้นอินเทอร์เน็ตในหลาย ๆ พื้นที่ในวันอังคาร(24 ธันวาคม) ขณะที่สมาชิกพรรคชาตินิยมฮินดูวางแผนจัดม็อบเดินขบวนหนุนกฎหมายความเป็นพลเมืองฉบับใหม่ แม้ว่าการประท้วงต่อต้านกฎหมายดังกล่าวทั่วประเทศจะทวีความรุนแรงขึ้น
อาหรับนิวส์รายงานว่า เจ้าหน้าที่กระทรวงมหาดไทยกล่าวว่ารัฐบาลคาดหวังให้เจ้าหน้าที่ความมั่นคงของรัฐปฏิบัติหน้าที่ในวันคริสต์มาสอีฟ และตลอดสัปดาห์ของวันหยุด
“เราต้องการให้ตำรวจสกัดกั้นการขยายตัวของความรุนแรง แต่เราก็ตระหนักว่าสถานการณ์สามารถควบคุมไม่ได้ ดังนั้นกองกำลังทหารจะถูกตรึงกำลังในตลาด และพื้นที่สาธารณะ” เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอาวุโสอินเดียกล่าว
มีการชุมนุมอย่างน้อย 20 ครั้งในการสนับสนุนหรือต่อต้านกฎหมายพลเมืองฉบับใหม่ที่เกิดขึ้นในเมืองต่าง ๆ โดยมีผู้ประท้วงจากทั้งสองฝ่ายเผยแพร่ข้อมูลในโซเชียลมีเดียเพื่อระดมมวลชน
กฎหมายพลเมือง (CAA) ฉบับแก้ไขมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้การโอนสัญชาติมาเป็นอินเดียทำได้ง่ายขึ้นสำหรับชาวฮินดู, ปาร์ซิส, ซิกข์, พุทธศาสนิกชน, เชน และคริสเตียนที่เดินทางมาถึงอินเดียก่อนวันที่ 31 ธันวาคม 2014 จากอัฟกานิสถาน, บังคลาเทศ และปากีสถาน
การผ่านกฎหมายเมื่อวันที่ 11 ธันวาคมก่อให้เกิดการประท้วงในรัฐทางตะวันออกอินเดีย อย่างรัฐอัสสัมซึ่งผู้ประท้วงเกรงว่ากฎหมายดังกล่าวจะทำให้ผู้อพยพผิดกฎหมายจากบังคลาเทศจะเข้ามาแย่งงานชาวอินเดียเพิ่มขึ้น
ขณะที่นักวิจารณ์กล่าวว่ากฎหมายดังกล่าวได้เลือกปฏิบัติต่อชาวมุสลิม และเป็นส่วนหนึ่งของวาระที่วางไว้ของกลุ่มฮินดูชาตินิยมภายใต้การนำของ Narendra Modi ของนายกรัฐมนตรี
นักเคลื่อนไหวที่ไม่เห็นด้วยกับกฎหมายกล่าวว่าพวกเขากำลังพยายามที่จะรักษาการเคลื่อนไหว และกำลังมองหาวิธีที่จะหลีกเลี่ยงการถูกตำรวจจับ และช่องทางการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต
สมาชิกอาวุโสของพรรค Bharatiya Janata (BJP) ของโมดี ได้จัดม็อบเพื่อสนับสนุนกฎหมาย โดยอ้างว่าเป็นการชุมนุมเพื่อตอบโต้สิ่งที่พวกเขาเห็นว่าเป็นการวิจารณ์ที่ทำให้เข้าใจผิด
“เราต้องการอธิบายว่ากฎหมายไม่ใช่การต่อต้านมุสลิม และเราต้องการแสดงให้เห็นว่าผู้ที่เป็นผู้นำการประท้วงต่อต้านกฎหมายเป็นพวกหลอกลวงมุสลิมที่ไร้เดียงสา และไม่ได้รับการศึกษา” โฆษกของ BJP กล่าว Gopal Krishna Agarwal กล่าว
มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 21 คนนับตั้งแต่มีการผ่านกฎหมาย ซึ่งนับเป็นการประท้วงครั้งใหญ่ต่อกฎหมายที่ออกโดยรัฐบาลของ Modi นับตั้งแต่การเลือกตั้งในปีนี้ที่เขาชนะเลือกตั้งแบบถล่มทลาย
ตำรวจในรัฐทางตอนเหนือของอุตตรประเทศ (UP) ซึ่งมีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในการประท้วงอ้างว่ากลุ่มอิสลามมิตกำลังกระตุ้นการประท้วงต่อต้าน CAA
“เรามีหลักฐานยืนยันว่ากลุ่มอิสลามมิตที่มีสำนักงานใหญ่ในนิวเดลี และฐานที่แข็งแกร่งที่สุดในรัฐทางใต้ในเกรละอยู่เบื้องหลังความรุนแรงใน UP” เจ้าหน้าที่ตำรวจอาวุโส Kalanidhi Naithani กล่าว
ในช่วง 10 วันที่ผ่านมาตำรวจใน UP ได้จับตัวประชาชนเกือบ 900 คนด้วยความรุนแรงเจ้าหน้าที่คนหนึ่งในห้องควบคุมของตำรวจกล่าว ประชาชนกว่า 2,000 คนถูกจับกุมทั่วประเทศอินเดีย
องค์กรพิทักษ์สิทธิมนุษยชนในนิวยอร์กวิจารณ์การกระทำของตำรวจ และเรียกร้องให้พวกเขาหยุดใช้กำลังต่อผู้ประท้วง
กลุ่มสิทธิมนุษยชนกล่าวว่าตำรวจใช้กำลังมากเกินกว่าเหตุต่อกลุ่มผู้ประท้วงที่มีนักเรียนร่วมด้วยจำนวนมาก
“ทางการควรดำเนินคดีกับผู้ประท้วงที่ใช้ความรุนแรง แต่พวกเขาจำเป็นต้องสอบสวนเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยว่ามีการใช้กำลังเกินกว่าเหตุหรือไม่” Meenakshi Ganguly ผู้อำนวยการกลุ่มสิทธิมนุษยชนเอเชียใต้กล่าว
ลัคเนา เมืองเอกของรัฐอุตาระประเทศ Tabassum Raza สตรีมุสลิมวัย 26 ปีกล่าวว่าเธอถูกตำรวจทำร้ายซึ่งบุกเข้าไปในบ้านของเธอ
“หลังจากเข้ามาในบ้านตำรวจคนหนึ่งชี้ปืนไปที่หน้าผากของฉันทันที และขอให้ฉันบอกว่าผู้ชายกำลังหลบซ่อนตัวอยู่ที่ไหน” เธอกล่าว
“เมื่อฉันบอกพวกเขาว่าไม่มีใครที่นี่ พวกเขาเริ่มทุบตีฉันด้วยกระบอง และทำลายทุกสิ่ง” Raza กล่าวโดยแสดงปลายแขนและขาที่มีรอยช้ำ
Vikash Chandra Tripathi ผู้กำกับการตำรวจในเมืองลัคเนาตะวันตกกล่าวว่าข้อกล่าวหาไม่มีมูลความจริง และตำรวจเป็นเพียงการค้นหาคนที่เกี่ยวข้องกับความรุนแรง
เขากล่าวว่าตำรวจจะสอบสวนข้อร้องเรียนอย่างเป็นทางการ
“จนถึงตอนนี้ตำรวจยังไม่ได้รับการร้องเรียนใด ๆ จากใครเกี่ยวกับ” เขากล่าว