Marzouq Al-Ghanim โฆษกสมัชชาแห่งชาติคูเวตได้ออกมาระบุเมื่อวันศุกร์ว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในเวลา นี้ต้องการจุดยืนที่เป็นเอกภาพเกี่ยวกับความเป็นผู้นำทางการเมืองในภูมิภาค ขณะที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) เรียกร้องชาติอาหรับจัดลำดับความสำคัญ
MEMO รายงานว่า Al-Ghanim โพสต์ในบัญชี Twitter ของเขาว่า :“สถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วซึ่งเกิดขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้มีความตื่นตัวอย่างมาก และต้องมีการเชื่อมโยงทางสังคมที่แข็งแกร่งและเป็นจริง โดยปราศจากปฏิกิริยาทางอารมณ์ความตึงเครียด และการกระทำที่ขาดความรับผิดชอบ”

เขาเสริมว่า:“ ในฐานะชาวคูเวตเราได้ผ่านสถานการณ์ที่ยากที่สุด และเราพยายามที่จะเอาชีวิตรอดจากความยากลำบากด้วยความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียว ความอดทนต่อความแตกต่างของเรา และแสดงวิสัยทัศน์ระยะยาวเกี่ยวกับอนาคตของประเทศของเรา และลูกของเรา”
ขณะที่ Anwar Gargash รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เรียกร้องให้มีการจัดลำดับความสำคัญของการแก้ปัญหาทางการเมืองในการเผชิญหน้า และความรุนแรงที่ยกระดับขึ้น

Gargash โพสต์บน Twitter ว่า:“ เนื่องจากสถานการณ์ที่ยกระดับขึ้นในภูมิภาคอย่างรวดเร็ว ทุกฝ่ายควรจัดลำดับความสำคัญของสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างสุขุม และมุ่งเน้นไปที่การหาทางออกทางการเมือง แทนที่จะเข้าร่วมการเผชิญหน้าและขยายสถานการณ์”
เขากล่าวในทวีตอีกว่า “ปัญหาที่เกิดขึ้นในภูมิภาคนั้นมีความซับซ้อน และสะสมเนื่องจากวิกฤตความไว้วางใจระหว่างฝ่ายที่เกี่ยวข้อง การจัดการเรื่องอย่างมีเหตุผลนั้นต้องใช้วิธีที่สงบ และไม่ใช้แต่อารมณ์”
โทรทัศน์ทางการอิรักรายงานโดยอ้างถึงแหล่งข่าวจากกลุ่มติดอาวุธ Popular Mobilisation Forces (PMF) ในตอนเช้าของวันศุกร์โดยระบุว่าพล.ต.โซลัยมานิ แกนนำฝ่ายปฎิบัติการนอกประเทศอิหร่าน ผู้บัญชาการกองกำลัง Quds ในสังกัดกองกำลังพิทักษ์การปฎิวัติอิหร่าน หน่วยขึ้นตรงต่อนายอาลี โคเมเนอีย์ และ Abu Mahdi Al-Muhandis รองหัวหน้า PMF เสียชีวิตจากการโจมตีทางอากาศซึ่งกำหนดเป้าหมายยานพาหนะของพวกเขาบนถนนใกล้สนามบินแบกแดด
สถานการณ์ที่ตึงเครียดนี้เกิดขึ้นหลังจากผู้ประท้วงชีอะห์หลายร้อยคนบุกโจมตีสำนักงานสถานทูตสหรัฐในกรุงแบกแดดเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา และจุดไฟเผาประตูสองแห่ง และหอสังเกตการณ์ก่อนที่ตำรวจปราบจลาจลอิรักจะผลักผู้ประท้วงออกจากสถานทูต
การจู่โจมดังกล่าวส่วนถึงของปฎิบัติการตอบโต้ของกองกำลังสหรัฐ โดยในวันอาทิตย์ยังได้มีการโจมตีเป้าหมายที่ตั้งของกลุ่มติดอาวุธ Iraqi Hezbollah Brigade ซึ่งสาขาของกลุ่ม PMF ในเขต Al-Anbar ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 28 คนและบาดเจ็บ 48 คน
สหรัฐฯเปิดปฎิบัติการโจมตีทางอากาศเพื่อตอบโต้การโจมตีด้วยขีปนาวุธที่ดำเนินการโดยกลุ่มติดอาวุธชีอะห์ต่อเป้าหมายสหรัฐฯ ในอิรักส่งผลให้ผู้รับเหมาพลเรือนคนหนึ่งของสหรัฐฯเสียชีวิตใกล้เมืองเคิร์อคุก
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯกล่าวหาอิหร่านอยู่เบื้องหลังการยิงขีปนาวุธโจมตีฐานทัพทหารของกองทัพสหรัฐ และนักการทูตในอิรักซึ่งเป็นสาขาของกลุ่มชีอะห์อิหร่านในอิรักได้ปฏิเสธไปก่อนหน้านี้