ซาอุฯ ปิดจังหวัด Qatif คุมการระบาดของโควิด-19

ซาอุดิอาระเบียพบผู้ป่วยไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ หรือ โควิด-19 รวมแล้วขณะนี้ 11 ราย ทั้งหมดเป็นผู้อาศัยในภาคตะวันออกของประเทศ

เดอะเนชั่น UAE รายงานว่าซาอุดิอาระเบียได้ประกาศเมื่อวันอาทิตย์(8 มีนาคม)ในการปิดจังหวัด Qatif เพื่อหยุดยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ตามรายงานของสำนักข่าว SPA ของทางการซาอุดีอาระเบีย

ราชอาณาจักรกล่าวว่าวัสดุเชิงพาณิชย์จะยังคงถูกส่งเข้าไปยังถูกส่งเข้าไปในพื้นที่ได้ แม้ว่าภาคธุรกิจ, ภาครัฐ และเอกชนทั้งหมดได้ปิดตัวลง ยกเว้นบริการที่สำคัญจะให้บริการต่อไป

กระทรวงมหาดไทยกล่าวว่ามาตรการดังกล่าวเป็นมาตรการด้านสุขภาพ เนื่องจากพบว่ามีผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด-19 ทั้งหมด 11 รายในราชอาณาจักรโดยทั้งหมดมาจากจังหวัด Qatif

กระทรวงมหาดไทยย้ำว่ามาตรการดังกล่าวเป็นไปตามมาตรฐานสากลเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสเมื่อกรณีมีแพร่กระจายของเชื้อในพื้นที่

อิตาลีได้ทำในสิ่งที่คล้ายกัน และกักกันประชาชนประมาณ 16 ล้านคนเกือบหนึ่งในสี่ของประชากรของประเทศ เพื่อหยุดการแพร่ระบาดของเชื้อทางตอนเหนือของประเทศ

เซบาสเตียน เคิร์ซนายกรัฐมนตรีของออสเตรียกล่าวเมื่อวันอาทิตย์(8)ว่ามันรอเพียงแค่เวลาที่ยุโรปจะนำมาตรการในการปิดพื้นที่มาใช้ในการยับยั้งการแพร่ระบาดของโควิด-19

ข่าวดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อกระทรวงสาธารณสุขของซาอุดิอาระเบียกล่าวว่ามีผู้ป่วยรายใหม่ 4 รายทั้งหมดมีการเชื่อมโยงกับผู้ติอเชื้อก่อนหน้านี้ที่เดินทางไปอิหร่าน แต่พวกเขาปกปิดข้อเท็จจริงต่อเจ้าหน้าที่สาธารณสุข โดย 3 รายที่พบใหม่เป็นสตรี

จังหวัด Qatif เป็นที่อยู่ของกลุ่มชาวชีอะห์กลุ่มใหญ่ในซาอุดิอาระเบีย โดยมีประชากรกลุ่มนี้อยู่ประมาณ 4.5 ล้านคน

ชาวชีอะห์ในซาอุดีอาระเบียจำนวนมากเดินทางไปยังอิหร่านเพื่อการแสวงบุญตามความเชื่อของศาสนาชีอะห์ และท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม

อิหร่านพยายามต่อสู้กับการแพร่ระบาดของไวรัส และเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมามีผู้เสียชีวิต 49 ราย รวมแล้วมีผู้เสียชีวิตถึง 194 รายโดยมีผู้ยืนยันการติดเชื้อแล้วมากกว่า 6,560 ราย ไวรัสแพร่กระจายอย่างรวดเร็วผ่านศาลเจ้าสำคัญของกลุ่มชีอะห์ในเมือง Qom ทางใต้ของกรุงเตหะราน

เจ้าหน้าที่อาวุโสของรัฐบาลอิหร่านติดเชื้อ และหลายคนเสียชีวิตจากไวรัส รวมทั้ง ที่ปรึกษาคนสำคัญของนายอาลีโคเมเนอีย์ และนักการเมืองระดับสูงในรัฐบาลอิหร่าน และระดับท้องถิ่นด้วย

กระทรวงมหาดไทยของซาอุดิอาระเบียกล่าวว่าพวกเขาจะช่วยให้ผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ แต่ปัจจุบันความช่วยเหลือของทางการยังเข้าไปไม่ถึง โดยบริการที่สำคัญรวมถึงร้านขายยา, ร้านค้าสิ่งของจำเป็น, สถานีบริการน้ำมัน, ศูนย์สุขภาพ, สำนักงานเทศบาล และเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยจะยังคงให้บริการต่อ

กระทรวงเรียกร้องให้มีความร่วมมือของผู้อยู่อาศัยในการดำเนินมาตรการที่จะมีผลกระทบมากที่สุดในการยับยั้งการแพร่ระบาด และกำจัดเชื้อดังกล่าวในราชอาณาจักร

ขณะที่การดูแลความปลอดภัยด้านสาธารณสุขของมัสยิดสำคัญในซาอุดิอาระเบีย ได้มีการทดสอบติดตั้งระบบฆ่าเชื้อด้วยแสง UV ที่ราวจับบรรไดเลื่อนในพื้นที่ของมัสยิดอัลฮารอม ที่ใช้ระบบขับเคลื่อนด้วย kinetic energy ซึ่งไม่จำเป็นต้องใช้พลังงานจากภายนอก โดยเครื่องมือนี้จะถูกติดตั้งที่บรรไดเลื่อนทุกแห่งทั่วมัสยิดอัลฮารอมหลังจากนี้ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัส covid-19 และโรคติดเชื้ออื่นๆไปด้วยพร้อมกัน

ความคิดเห็น

comments