เมื่อวันจันทร์ที่ (9 มีนาคม) ผ่านมา สำนักข่าว IRNA ของทางการอิหร่านรายงานว่า มีชาวอิหร่านเสียชีวิตจากการดื่มเหล้าเถื่อน 27 ราย หลังจากมีข่าวลือว่าการดื่มเหล้าหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จะช่วยฆ่าเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่กำลังระบาดหนักอยู่ในอิหร่านลามระบาดไปในทั้ง 31 จังหวัดทั่วประเทศ คร่าชีวิตผู้คนไปแล้ว 237 ราย และมีผู้ติดเชื้อราว 7,161 ราย
มีผู้เสียชีวิตจากการดื่มเหล้าเถื่อนในจังหวัดคูเซสถาน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของอิหร่าน 20 ราย และอีก 7 รายพบในเขตแอลโบร์ซ ทางตอนเหนือ ขณะที่การดื่มสุราเป็นสิ่งต้องห้ามในอิหร่าน ยกเว้นชนกลุ่มน้อยที่ไม่ชาวมุสลิม แต่ชาวอิหร่านมักลอบต้มเหล้าเถื่อนขายและเสียชีวิตอยู่เป็นประจำ
โฆษกของมหาวิทยาลัยการแพทย์จันดีชาปูร์ ในเมืองอาห์วาซ จังหวัดคูเซสถาน เปิดเผยว่า ยังมีผู้ต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลจากการดื่มเหล้าเถือนอีก 218 ราย โดยโฆษกชี้ว่าเหตุที่เกิดขึ้นมีสาเหตุมาจากข่าวลือที่ว่าการดื่มเหล้าสามารถรักษาการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ได้
รองอัยการเขตแอลโบร์ซกล่าวว่า ผู้เสียชีวิตจากการดื่มเมทานอล แอลกอฮอล์ที่ใช้บริโภคไม่ได้เข้าไป หลังได้รับข้อมูลผิดๆ ทางออนไลน์ที่ทำให้พวกเขาคิดว่าการดื่มเหล้าดังกล่าวจะช่วยต่อสู้และรักษาไวรัสโคโรนาได้
ด้านศาลอิหร่านได้ประกาศปล่อยตัวนักโทษในเรือนจำราว 70,000 คนเป็นการชั่วคราว เพื่อต่อสู้กับการระบาดของโรคโควิด-19 โดยผู้พิพากษาศาลระบุว่า การปล่อยตัวนักโทษดังกล่าวจะเป็นการปล่อยตัวที่จะไม่ไปสร้างความไม่ปลอดภัยขึ้นในสังคม แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดหรือระบุว่านักโทษที่ได้รับการปล่อยตัวไปชั่วคราวนั้น จะต้องกลับเข้าเรือนจำอีกหรือไม่เมื่อใด