การปะทะกันเกิดขึ้นที่ชายแดนกรีซกับตุรกีเมื่อวันพุธที่(18 มีนาคม)ผ่านมาหลังจากที่มีผู้อพยพ 500 คนพยายามที่จะทำลายรั้วชายแดนและเข้าสู่กรีซ
ตำรวจกรีซกล่าวว่าพวกเขาใช้แก๊สน้ำตาเพื่อผลักดันผู้อพยพหลังพยายามรื้อทำลายรั้วกั้นพรมแดนทางทิศใต้ที่จุดผ่านแดน Kastanies ขณะที่ทางการตุรกีก็มีการยิงแก๊สน้ำตาเข้าใส่ที่ชายแดนกรีซด้วย โดยการปะทะเริ่มต้นเมื่อเวลา 14.00 น. และกินเวลาประมาณ 2 ชั่วโมง
ผู้อพยพประมาณ 2,000 คนยังคงตั้งค่ายพักแรมที่ชายแดนกรีก – ตุรกีไม่กี่สัปดาห์หลังจากตุรกีประกาศเปิดชายแดนไปยังยุโรป และสนับสนุนผู้อพยพ และผู้ลี้ภัยที่อาศัยอยู่ในประเทศเพื่อข้ามไปยังสหภาพยุโรปผ่านทางกรีซ
ผู้อยพยพหลายหมื่นคนมุ่งหน้าสู่ชายแดนแม้จะมีการยืนยันของกรีซว่าชายแดนตะวันออกซึ่งเป็นชายแดนนอกสหภาพยุโรปถูกปิด ท่ามกลางข้ออ้างว่าถูกคุกคามอย่างต่อเนื่องโดยประธานาธิบดีตุรกี Recep Tayyip Erdogan ที่ประกาศว่าเขาจะเปิดพรมแดนของเขาและอนุญาตให้ผู้ลี้ภัยนับล้านเข้าสู่ยุโรป เว้นแต่สหภาพยุโรปจะยินยอมให้การสนับสนุนเพิ่มเติมสำหรับการดูแลผู้ลี้ภัยในตุรกี
สหภาพยุโรปได้มีข้อตกลงกับตุรกีในปี 2016 โดยให้เงินเป็นพันล้านยูโรเพื่อเป็นการตอบแทนตุรกีที่ดูแลผู้ลี้ภัยมากกว่า 3.5 ล้านคนจากประเทศเพื่อนบ้านซีเรีย