นักบินกองทัพอากาศอาหรับซีเรียขับเครื่องบิน Sukhoi Su-22 และเฮลิคอปเตอร์ทิ้งระเบิดที่บรรจุแก๊สพิษคลอรีน และแก๊สทำลายประสาทในหมู่บ้านแห่งหนึ่งในภูมิภาค Hama ทางตะวันตกของประเทศในเดือนมีนาคม 2017 ตามรายงานผลสอบสวนของหน่วยงานเฝ้าระวังด้านอาวุธเคมีระหว่างประเทศ
อาหรับนิวส์รายงานว่าหน่วยสืบสวนพิเศษจัดตั้งขึ้นโดยสมาชิกขององค์กรเพื่อการห้ามใช้อาวุธเคมี (OPCW) ในปี 2018 เพื่อระบุผู้กระทำผิดจากการโจมตีที่ผิดกฎหมายนี้ แต่จนถึงขณะนี้ OPCW ได้รับอนุญาตให้เปิดเผยเพียงว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นหรือไม่ โดยไม่ระบุตัวผู้กระทำ
เจ้าหน้าที่ในรัฐบาลของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด และรัสเซียผู้สนับสนุนด้านการทหารได้ปฏิเสธการใช้อาวุธเคมี และกล่าวหาว่าเหตุที่เกิดขึ้นเป็นการเล่นละครจัดฉากของฝ่ายต่อต้านซีเรีย
รายงานของ The OPCW Investigation and Identification Team (IIT) ที่ถูกคัดค้านโดยมอสโกและดามัสกัส ได้เปิดเผยว่ามีผู้ได้รับผลกระทบกว่า 100 คนได้รับผลกระทบจากการโจมตีด้วยอาวุธร้ายแรงที่เกิดขึ้นในวันที่ 24, 25 และ 30 ปี 2017 ในเมือง Ltamenah
กองพล 50 แห่งกองพันทางอากาศ 22 แห่งกองทัพอากาศซีเรียได้ทิ้งระเบิดทางอากาศแบบ M4000 ที่บรรจุแก๊สพิษซาริน เข้าโจมตีเมือง และทิ้งกระบอกบรรจุคลอรีนโจมตีโรงพยาบาล ตามรายงานสรุปผลดังกล่าว การตรวจพบว่ามีการดำเนินการจากฐานทัพอากาศ Sharat และ Hama
ในขณะที่บุคคลถูกระบุโดยผู้สอบสวน OPCW ชื่อของพวกเขาได้รับการเปิดเผยในรายงานซึ่งจะถูกส่งไปยัง 193 ประเทศสมาชิกของ OPCW ในวันพุธ
“มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าผู้กระทำผิดในการใช้แก๊สพิษซาริน เป็นอาวุธเคมีใน Ltamenah เมื่อวันที่ 24 และ 30 มีนาคม 2017 และการใช้คลอรีนเป็นอาวุธเคมีในวันที่ 25 มีนาคม 2017 เป็นบุคคลที่อยู่ใน กองทัพอากาศอาหรับซีเรีย” หัวหน้าทีม OPCW Santiago Onate-Laborde กล่าวในแถลงการณ์
“การโจมตีในลักษณะเชิงกลยุทธ์ดังกล่าวจะเกิดขึ้นบนพื้นฐานของคำสั่งจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของหน่วยบัญชาการทหารของสาธารณรัฐอาหรับซีเรีย” เขากล่าว
.ในส่วนการระบุตัวตนทีมของ OPCW ไม่ใช่คณะตุลาการ และจะขึ้นอยู่กับสมาชิกของ OPCW เลขาธิการสหประชาชาติ และประชาคมระหว่างประเทศว่าจะ “ดำเนินการใด ๆ ที่พวกเขาเห็นว่าเหมาะสม และจำเป็น” นายเฟอร์นันโด อาเรียส หัวหน้าหน่วยปฏิบัติการ OPCW กล่าว
OPCW ตั้งขึ้นในปี 1997 เป็นหน่วยงานด้านเทคนิคในการบังคับใช้สนธิสัญญาไม่แพร่ขยายอาวุธเคมีในโลก แต่ได้กลายเป็นจุดสนใจของความขัดแย้งทางการทูตระหว่างซีเรียและรัสเซีย อีกด้านหนึ่งคือสหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส และสหราชอาณาจักร ต่อต้านใช้อาวุธเคมีในซีเรีย
