เจ้าหน้าที่บังกลาเทศเปิดเผยว่า ชายโรฮิงญาวัย 71 ปี ที่อาศัยอยู่ในค่ายผู้ลี้ภัยขนาดใหญ่ เสียชีวิตเพราะโรคโคโรนาไวรัส 2019 หรือโควิด-19 เป็นรายแรก
เจ้าหน้าที่เขตค็อกซ์ บาซาร์ ในเมืองจิตตะกอง ทางตะวันออกเฉียงใต้ของบังกลาเทศ แจ้งว่า ชายคนดังกล่าวเสียชีวิตเมื่อวันอาทิตย์(31 พฤษภาคม) ก่อนมีการยืนยันสาเหตุเมื่อคืนวันจันทร์(1 มิถุนายน)ว่าเกิดจากโรคโควิด-19
ชาวโรฮิงญาที่รู้จักกันเปิดเผยว่า ชายคนนี้มีภาวะความดันโลหิตสูงมานาน และเป็นโรคไต จึงไม่มีใครคิดว่าเขาติดเชื้อไวรัสโคโรนา พอทราบข่าวทุกคนก็ตกใจ และว่าช่วงหลายสัปดาห์มานี้คนในค่ายผู้ลี้ภัยเป็นไข้ ปวดศีรษะ และปวดเมื่อยกันหลายคน ส่วนใหญ่คิดว่าเป็นเพราะอากาศเปลี่ยน จึงไม่มีใครไปตรวจหาเชื้อโรคโควิด-19
ชายสูงวัยที่เสียชีวิตเป็นรายแรกนี้อยู่ในกลุ่มชาวโรฮิงญาอย่างน้อย 29 คนที่ผลตรวจเป็นบวก เขาเสียชีวิตในศูนย์กักกันที่องค์กรแพทย์ไร้พรมแดนตั้งขึ้นและได้รับการฝังศพในวันเดียวกัน
ทางการบังกลาเทศกำลังตามหาผู้ใกล้ชิดเขา ขณะนี้กักดูอาการแล้ว 9 คน เขาพักในค่ายคูตูปาลอง หนึ่งในสองค่ายผู้ลี้ภัยที่รัฐบาลบังกลาเทศตั้งขึ้น และเป็นค่ายผู้ลี้ภัยใหญ่ที่สุดในโลก มีคนอาศัยอย่างแออัดราว 600,000 คน
ชาวโรฮิงญากว่า 740,000 คนหนีตายจากการกวาดล้างทางทหารของกองทัพพม่าเข้ามาในเขตค็อกซ์ บาซาร์ที่มีประชากร 3.4 ล้านคนเมื่อปี 2560 เดิมเขตนี้มีผู้ลี้ภัยอาศัยอยู่แล้วราว 200,000 คน
ขณะที่สถานการณ์ด้วยโควิด-19 ในบังกลาเทศ โดยต้องประกาศปิดเมืองเมื่อต้นเดือนเมษายน เพราะยอดผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่มขึ้น จากนั้นพบผู้ป่วยรายแรกในค่ายผู้ลี้ภัยเมื่อกลางเดือนพฤษภาคม เป็นชายวัย 35 ปี สันนิษฐานว่าติดเชื้อมาจากโรงพยาบาลในเมืองข้างเคียง จากนั้นก็มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้น จนต้องกักดูอาการผู้ลี้ภัยประมาณ 15,000 คน เมื่อสัปดาห์ก่อน ขณะที่บังกลาเทศทั้งประเทศมีผู้ป่วยสะสมกว่า 60,000 คน เสียชีวิต 700 คน